ห้องประชุมกรรมาธิการ ป.ป.ช. ต้องปิดอย่างกะทันหันอีกครั้ง จากกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มีปากเสียงกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ จากนั้นนายสิระ เจนจาคะ กรรมาธิการจากพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ามาปกป้องจนทำให้เกิดการโต้เถียงกัน
วันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ปิดประชุมก่อนเวลา เนื่องจากเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง โดยมีรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ถามในที่ประชุม ขอให้ กมธ. ป.ป.ช. นำเรื่องร้องเรียนที่เคยมีคนมายื่นซึ่งค้างไว้มาพิจารณาก่อน แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกมธ.ป.ป.ช. ตอบกลับว่า เรื่องพวกนี้ยังไม่มีการลงนาม แต่ น.ส.ปารีณา ตอบกลับว่า เรื่องพวกนี้มีการลงนามแล้ว
สักพักหนึ่งมีการโต้เถียงกัน จนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “เสือก” ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นมาต่อว่าที่มีการใช้คำพูดเช่นนั้นกับผู้หญิง (ชมคลิปช่วงหนึ่งในห้องกมธ.ป.ป.ช.)
“ไพบูลย์” ยื่นสภาถอด “เสรีพิศุทธ์” ใช้อำนาจไม่ทำตามมติกมธ.ป.ป.ช.ยุติตรวจสอบเรื่องถวายสัตย์ฯของพล.อ.ประยุทธ์
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นำแถลงยื่นญัตติด่วนเพื่อให้สภาพิจารณาให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พ้นจากตำแหน่ง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีส.ส.รับรองในญัตตินี้จำนวน 52 คน จากนั้นได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์
นายไพบูลย์ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องมีการยื่นญัตตินี้ เนื่องจากการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ได้มีการพิจารณาเรื่องการถวายสัตย์ปฎิญาณของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก จำนวน 8 คนจากทั้งหมด 15 คน ได้มีมติโดยการขานชื่อเพื่อยืนยันว่า ต้องการให้ยุติการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมาธิการฯที่จะตรวจสอบได้ เมื่อคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากได้มีมติแล้ว ปรากฎว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กลับละเลยมติเสียงข้างมากโดยไปอ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ถูกต้องพร้อมกับอ้างอำนาจความเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ เพื่อไม่ถือตามมติเสียงข้างมาก เป็นผลให้กรรมาธิการเสียงข้างมากจะต้องดำเนินการกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในสภาฯด้วยการเสนอญัตติฉบับนี้
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้อาศัยสถานะความเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯทำการตรวจสอบการถวายสัตย์ของนายกฯและคณะรัฐมนตรีทั้งทีเรื่องดังกล่าวอยู่ในเขตพระราชอำนาจ การกระทำของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงเป็นการกระทำที่มิบังควรอย่างยิ่ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงไม่สมควรที่จะปฎิบัตหน้าที่ประธานและกรรมาธิการต่อไป เพราะปฎิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจตรวจสอบดังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้วินิจฉัยตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 32/2562 จึงขอเสนอญัตติด่วนเพื่อให้สภาฯพิจารณาดำเนินการและมีมติให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พ้นจากการเป็นกรรมาธิการฯต่อไป ผมเป็นนักฎหมายผ่านเรื่องต่างๆมากมาย ถ้าท่านยังไม่หยุด จะเป็นเรื่องที่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง” นายไพบูลย์ กล่าว

(นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นสภาขอเปิดญัตติด่วนถอดพล.ต.อ.เสรีิพิศุทธ์ เตมียเวส จากกรรมาธิการ ป.ป.ช.)









