จับสารวัตรสืบฯ นั่งรถทัวร์จากแม่สายขนยาบ้าเข้ากรุง 2 แสนเม็ด รับได้ค่าจ้าง 1 แสนบาท

จับสารวัตรสืบฯ นั่งรถทัวร์จากแม่สายขนยาบ้าเข้ากรุง 2 แสนเม็ด รับได้ค่าจ้าง 1 แสนบาท

ตำรวจแม่สายและทหารจับสารวัตรหนุ่มมือปราบกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ดซุกกระเป๋าเดินทาง ระหว่างจับกุมพยายามวิ่งหลบหนี สารภาพจะนำไปส่งให้นายโอ๊ต ในพื้นที่ กทม. ได้ค่าจ้างจำนวน 1 แสนบาท

วันนี้ (11 ก.ย.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สาย และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง ประจำด่านตรวจถ้ำปลา ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ร่วมกันจับกุม พ.ต.ท.สุรจิต ทาวุธ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398/22 ม.1 ต.เจริญผล อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด

เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.ท.สุรจิต นั่งรถทัวร์โดยสารบริษัทแห่งหนึ่ง (แม่สาย-กรุงเทพฯ) จากอำเภอแม่สาย เมื่อมาถึงด่านตรวจถ้ำปลา เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นตรวจสอบบนรถ พบ พ.ต.ท.สุรจิต นั่งที่เบาะหมายเลข 1 A แสดงท่าทางมีพิรุธ พร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นที่ตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และจากการตรวจค้นกระเป๋าที่อยู่ในช่องเก็บสัมภาระ ซึ่งเป็นของ พ.ต.ท.สุรจิต พบยาบ้าอยู่ภายในเกือบ 2 แสนเม็ด โดยขณะตรวจสอบ พ.ต.ท.สุรจิต พยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมมาได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า

จากการสอบสวน เบื้องต้น พ.ต.ท.สุรจิต ได้ให้การว่ายาบ้าเป็นของตนจริง โดยรับจ้างขนยาบ้าจากนายโอ๊ต ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์  ซึ่งติดต่อกันทางไลน์ โดยรับยาบ้าจากบริเวณริมถนนบ้านเกาะทราย ม.7 ต.แม่สาย โดยมีคนนำมาวางไว้ให้ และจะนำไปส่งให้นายโอ๊ต ในพื้นที่ กทม. โดยจะได้ค่าจ้าง จำนวน 100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายและสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับ พ.ต.ท.สุรจิต เป็นนายตำรวจมีผลงานโดดเด่นเรื่องของปราบปรามยาเสพติดและทำงานทีมเดียวกับนายตำรวจที่เคยตกเป็นข่าวกรณีมีการส่งยาเสพติดไปที่บ้าน (สารวัตรแย้) แต่กลับมาลักลอบขนยาเสพติดเสียเอง

ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และสืบสวนขยายผลถึงผู้สนับสนุน และสั่งการอยู่เบื้องหลังทั้งหมด

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นผู้รักษากฎหมายเสียเองและขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจ ที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา” รองโฆษก ตร. กล่าว

ขณะนี้ บช.ภ.6 มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพร้อมมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.สุรจิต ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบกับ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ว่ามีส่วนปล่อยปะละเลยไม่กำกับดูแลให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิดหรือไม่

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง