พปชร.สรุปโผรัฐมนตรีแล้ว บางกระทรวงเสนอ 2 ชื่อให้ “บิ๊กตู่” เลือกเอง

พปชร.สรุปโผรัฐมนตรีแล้ว บางกระทรวงเสนอ 2 ชื่อให้ “บิ๊กตู่” เลือกเอง

พลังประชารัฐแก้ปัญหาจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว บางกระทรวงเสนอชื่อแคนดิเดตมากกว่า 1 คนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจขั้นตอนสุดท้าย รับพรรคขนาดใหญ่ ส.ส.มากกว่า 100 คนมีโอกาสเห็นไม่ตรงกัน แต่ไม่ควรขุดคดีเก่าของอีกฝ่ายในพรรคเดียวกันมาโจมตีกันเอง แนะให้มองประเทศเป็นตัวตั้ง

วันที่ 14 มิ.ย. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้รายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐถึงมือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ทยอยส่งรายชื่อให้กับนายกรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นสุดท้าย โดยบางตำแหน่งพรรคได้ส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณามากกว่า 1 รายชื่อพร้อมข้อเสนอแนะ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นบุคคลใดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเลือก คาดว่าเดือนกรกฎาคมจะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรคว่า ทุกพรรคมีปัญหาเรื่องความเห็นที่แตกต่างกัน พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคขนาดใหญ่ มี ส.ส.กว่า 100 คน จึงเป็นเรื่องปกติ พรรคเปิดโอกาสให้ทุกคน และเคารพความเห็นของทุกคนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องจบด้วยการพูดคุยทำความเข้าใจกัน

บางส่วนของคณะรัฐมนตรีที่มีข่าวไม่นิ่งจนโค้งสุดท้าย

การตั้งคณะรัฐมนตรีมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจเป็นเรื่องปกติ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หมด ส่วนกรณีที่มีการขุดคดีเก่าของสมาชิกบางคนมาโจมตีกันนั้น ส่วนตัวไม่อยากเห็นการโจมตีเพราะเรากำลังเดินหน้าประเทศ ไม่อยากให้เอาสิ่งลบมาพูดกัน เพราะประชาชนจะคิดว่าการเมืองมีแต่เรื่องของการแย่งชิง ควรเปิดใจกว้างและมองประเทศเป็นตัวตั้ง รวมถึงมองความสามารถของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

ส่วนความคืบหน้าของการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ขณะนี้กรอบนโยบายพรรคเสร็จสมบูรณ์แล้ว สัปดาห์หน้าจะดูความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อนัดหารือร่วมกัน ในการนำนโยบายของแต่ละพรรคร่วมมาร้อยเรียงให้เป็นนโยบายรัฐบาล ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาและแถลงต่อรัฐสภา

เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคใหม่ว่า เป็นเพียงกระแสข่าวไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่หากพลเอกประยุทธ์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นผู้นำเข้มแข็งซึ่งจะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็งและเดินหน้าไปได้ ส่วนจะเป็นการตอกย้ำภาพการสืบทอดอำนาจให้ชัดเจนขึ้นหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงกระแสข่าวยังไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์จะมาดำรงตำแหน่งจริงหรือไม่ และประเด็นนี้ทางพรรคยังไม่เคยมีการพูดคุยหรือวางตัวมาก่อน หากพลเอกประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรคจริงก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนตัวกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย

“ตอนนี้พรรคยังไม่มีการเทียบเชิญพลเอกประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรค และยังเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ ต้องรอความชัดเจน และส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปได้ที่พลเอกประยุทธ์อาจจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรคและของนายกรัฐมนตรีเป็นไปในทิศทางที่สอดรับกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของอนาคต” นายสนธิรัตน์ กล่าว

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง