หลังเวลา 18.00 น.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แถลงผลการพบหารือภาคเอกชนและสมาคมต่างๆ โดยตอนหนึ่งกล่าวว่า วิกฤติโควิดที่กำลังเผชิญทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่ ไม่เพียงด้านสาธารณสุขแต่ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน
“หากเปรียบกับอีกหลายประเทศในโลก ผมรู้สึกทึ่งกับบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล พนักงานส่วนต่างๆ ในสถานพยาบาล อสม.ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรในภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดในสถานที่ต่างๆ ทุกท่านล้วนเป็นบุคคลสำคัญ ตลอดจนการให้ความร่วมมือและการมีวินัยของคนไทยทุกคน ทั้งการหมั่นล้างมืออยู่เสมอ และการใส่หน้ากาก โดยไม่ต้องมีกฎหมายบังคับเหมือนในบางประเทศแต่คนไทยทุกคนร่วมมือร่วมใจกันจนเราประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรภูมิใจในความสำเร็จของประเทศ”
นอกจากนี้ นายกฯ ได้เล่าถึงการเดินทางไปพบกับภาคธุรกิจ สมาคมต่างๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิด-19 และกล่าวถึงสิ่งที่จะผลักดันเพื่อจะช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจรากหญ้า อาทิ
ได้สั่งให้การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเป็นนโยบายกำหนดโควต้าตามงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยให้ไปซื้อสินค้า ใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการรายเล็กในท้องถิ่นต่างๆ โดยพิจารณาให้อยู่ในกรอบของกฎหมายเพื่อให้เงินถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลุ่มเอสเอ็มอีกทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องทำบัญชีผลิตภัณฑ์เพื่อขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้าด้วย โดยตนจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง พร้อมขอความร่วมมือบริษัทใหญ่ต่างๆ ให้สั่งซื้อของและใช้บริการจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายในประเทศด้วย เพราะกลุ่มเอสเอ็มอีได้ช่วยสร้างงานได้มากกว่า 14 ล้านคน และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญกับเศรษฐกิจไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงภาคการท่องเที่ยวที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ว่า ตนรับทราบและเข้าใจความต้องการ และจะทำตามที่เสนอเมื่อความเสี่ยงของโควิด-19 อยู่ในระดับที่ยอมรับความเสี่ยงได้ เพราะถ้าเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วย ทุกอย่างที่เราทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า และจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ
“ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมนึกถึงพี่น้องนับล้านล้านคน ที่ต้องพึ่งพาหารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว และบริการอยู่ตลอด โดยจะเริ่มจากการสนับสนุน ให้มีการท่องเที่ยวในประเทศได้ในเร็วๆ นี้”
สำหรับการจัดประชุมและสัมมนาของภาครัฐ ขอให้ออกไปใช้สถานที่หรือโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่า จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กำชับเลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีการมาตรการป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เรื่องแรงงานที่นายจ้างปิดกิจการแต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม ได้สั่งการเรื่องนี้ให้ผู้ปฏิบัติทำได้อย่างถูกต้องและแรงงานได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคมแล้ว ส่วนการหารือกับเกษตรกรไทยและสมาคมชาวนา ที่กังวลเรื่องการขาดแคลนน้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางรับมือไปก่อน ซึ่งตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังทำแผนปฏิบัติที่จะมาเสนอเร็วๆ นี้ และทางด้านภาคการประมงได้สั่งให้ตั้งทีมทำงานเพื่อช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับกฎหมายแรงโดยจะเชิญตัวแทนจากภาคประมงมาทำงานร่วมกับภาครัฐ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเดินทางไปพบกับภาคธุรกิจและสมาคมต่างๆ ทำให้ได้พบกับคนที่น่าประทับใจหลายคน ซึ่งขอขอบคุณอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทย อยากจะขอบคุณเป็นพิเศษ คือ การที่ทุกท่านไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ยังมีความห่วงใยต่อประเทศชาติด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข็มแข็งต่อไป
