ปาร์ตี้ที่จอยกันด้วยความเงียบ ชวนรู้จัก ‘Reading Party’ เมื่อคนรุ่นใหม่วางโทรศัพท์ ขยับมาจับหนังสือ

ปาร์ตี้ที่จอยกันด้วยความเงียบ ชวนรู้จัก ‘Reading Party’ เมื่อคนรุ่นใหม่วางโทรศัพท์ ขยับมาจับหนังสือ

ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้ หลายคนก็คงนึกถึงเสียงเพลง และความสนุก แต่ถ้าเราจะบอกว่า มันมีปาร์ตี้หนึ่งที่พาคนมาเจอกันด้วยความเงียบ และหนังสือ คุณจะเชื่อไหม? มีอยู่จริง สิ่งนี้เรียกว่า Reading Party ปาร์ตี้ที่กำลังฮิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีจุดเริ่มจากการที่ พวกเขารู้สึกว่าเข้าสังคมเยอะเกินไป จนอ่านหนังสือน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด 

 

แต่จะให้ปลีกตัวไม่ให้พบเจอเพื่อนฝูงคงไม่ได้ ปาร์ตี้อ่านหนังสือจึงเกิดขึ้นอย่างง่ายๆ คือการนัดเพื่อนมาอ่านหนังสือด้วยกัน อาจมีเสียงเพลงคลอเบาๆ หรือไม่มีเลยก็ได้ อ่านจบแล้วจะคุยกันเรื่องหนังสือ คุยกันเรื่องอื่น หรือไม่คุยก็ยังได้ ประเด็นคือต้องโฟกัสกับการอ่านหนังสือก่อน

 Reading Party นี้ฮิตขึ้นมาได้ยังไง สำนักข่าว TODAY ขอพาไปสำรวจกัน  

[ประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนรักหนังสือ]

ย้อนกลับไปก่อนจะมี Reading Party เรามี Book Club หรือสมาคมหนังสือมาก่อน แปลตรงตัว Book Club คือการมาพบปะกันของคนรักหนังสือ ย้อนความกลับไปตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 สมาคมหนังสือ มักจะมีสมาชิกของชมรมเป็นผู้หญิง ที่ถูกกีดกันไม่ให้เรียนหนังสือเหมือนผู้ชาย พวกเธอจึงมารวมตัวกัน เพื่ออ่านหนังสือ และคุยสัพเพเหระเกี่ยวกับประเด็นที่น่าสนใจ 

หนึ่งในสมาคมหนังสือที่โด่งดังช่วงยุคแรก เกิดขึ้นในปี 1634 นั่นคือ สมาคมของ Anne Hutchinson ผู้นำทางจิตวิญญาณของรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่ขึ้นว่าเป็นเฟมินิสต์ผู้มาก่อนกาล เพราะตั้งคำถามกับบทบาททางเพศ และอำนาจของผู้ชาย เธอก่อตั้งกลุ่มหญิงล้วน ให้มารวมตัวกันในทุกสัปดาห์ เพื่ออ่านไบเบิล

 หลังจากนั้น สมาคมหนังสือก็ถูกพัฒนาไปสู่หนังสือประเภทอื่นๆ อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาคมคนรักวรรณกรรม ปรัชญา และหนังสือแนวสังคม โดยยังมีผู้หญิงเป็นหัวเรือหลักของสมาคมหนังสืออย่างเหนียวแน่น ด้วยความพยายามจะทลายกรอบทางสังคม ที่ตั้งไว้ให้ผู้หญิงเป็นแม่บ้านแม่เรือนเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม สมาคมของหนุ่มๆ และสมาคมสหที่ไม่จำกัดเพศก็เติบโตเช่นกัน หนึ่งในสมาคมที่หลายคนรู้จัก คือ Junto ชมรมที่มีจำนวนสมาชิก 12 คน และนัดพบกันทุกเย็นวันศุกร์ ของ เบจามิน แฟลงคลิน ซึ่งเกิดขึ้นมา เพื่อกระตุ้นบทสนทนาว่าด้วยการเมือง ปรัชญา และอื่นๆ เพื่อลับคมความคิด

 กระโดดมายังยุคปัจจุบัน ความนิยมของสมาคมหนังสือก็ยังไม่ได้จืดจางลงไป แต่กลับเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน และเน้นความหลากหลายของผู้คนและประเภทของหนังสือมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด อย่างที่ เซเลบริตี้ไม่ว่าจะเป็น โอปรา วินฟรีย์ หรือ ดูอา ลิปา ที่มี Book Club ของตัวเอง แถมยังจัดรายการและพอดแคสท์ เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงด้วย เป็นการยืนยันอีกทางว่า Book Club ไม่มีวันตายจริงๆ

[Reading Party คลับของคนรักหนังสือเจนใหม่]

แล้วถ้าเราเป็นคนชอบอ่าน แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมหนังสือไหนเลย ไม่กล้าไปสมัคร ไม่รู้ฟอร์มทีมกันยังไง มันยังมีพื้นที่สำหรับเราหรือเปล่า? คำตอบคือ ‘มีแน่’ เพราะยุคนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Reading Party หรือปาร์ตี้อ่านหนังสือ 

คอนเซปต์ของ Reading Party นั้นง่ายแสนง่าย และอาจฟังดูแปลกๆ ในทีแรกที่ฟัง (แต่เชื่อเถอะว่ามันเวิร์ก) คือปาร์ตี้ที่ไม่ได้มีเสียงเพลง หรือการเต้นรำ แต่เป็นการรวมตัวกันของคนกลุ่มหนึ่งที่อยากมาเจอกัน เพื่อแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน นั่นคือการอ่านหนังสือ

ในวงกว้าง Reading Party เป็นกระแสขึ้นมา เพราะงานชื่อ Reading Rhythms ซึ่งจัดขึ้นในฤดูร้อนปี 2023 และนิยามตัวเองว่า ‘นี่ไม่ใช่สมาคมหนังสือ แต่เป็นปาร์ตี้อ่านหนังสือ’  เมื่อเพื่อนสนิท 4 คนในนิวยอร์ก รู้สึกว่าตัวเองอ่านหนังสือได้น้อยจัง เพราะมัวเอาเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง พวกเขาจึงตั้งแพลนขึ้นมาว่า อยากเจอเพื่อนดีนัก ก็มานั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อนกันเสียเลย

โดยมีเป้าหมาย คือ การสร้างพื้นที่ที่เงียบสงบพอที่จะอ่านหนังสือ แต่ก็เป็นพื้นที่ที่ไม่เหงาเกินไป เพราะได้อยู่กับเพื่อนนั่นเอง

 กฎของงาน Reading Party นั้นง่ายมาก

  • หากอยากจะเข้าร่วม ต้องลงชื่อไว้ก่อน และอาจจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อจองสิทธิ
  • เอาหนังสือเล่มโปรดหรือเล่มที่อยากอ่านไป พอไปถึงก็นั่งอ่านสักชั่วโมง อาจมีเพลงสบายๆ คลอเบาๆ หรืออ่านเงียบๆ ก็ได้ แล้วแต่ตกลงกัน
  • หลังจากอ่านก็มาคุยกัน จะคุยเรื่องหนังสือหรือเลยเถิดไปเรื่องอื่นก็ได้ หรือไม่คุยอะไรเลยก็ได้ ขอแค่ปล่อยใจสนุกๆ
  • ขอความร่วมมือไม่ใช้โทรศัพท์ขณะที่เข้าร่วมกิจกรรม บางกลุ่มก็เก็บโทรศัพท์ไปเลย

 จนถึงตอนนี้ Reading Rhythms ในสหรัฐฯ เติบโตไปใหญ่ ถูกจัดในเมืองอื่นๆ นอกนิวยอร์ก ขายบัตรกันเป็นจริงเป็นจัง ขณะเดียวกัน เทรนด์ Reading Party เองก็ได้รับความนิยม นอกจาก Reading Rhythms แล้วยังมีปาร์ตี้อ่านหนังสือใหม่ๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ที่ดังๆเช่น Silent Book Club ที่อ่านกันมาตั้งแต่ปี 2012 และขยายตัวเองไปสู่ 50 ประเทศทั่วโลก

[แล้วไทยล่ะ มีที่ไหนแนะนำบ้าง?]

ไทยเองก็ไม่น้อยหน้า เราก็มี Reading Party กับเขาเหมือนกัน ใครสนใจอยากไปอ่าน ไปคุย หรือแค่ไปนั่งเงียบๆ ฟังคนอื่นเขาคุยกัน นี่คือส่วนหนึ่งของปาร์ตี้ที่เราหยิบมาแนะนำ

  • Booktrovert ของ theWHOLESOME Book Club จัดขึ้นที่ The Commons ทองหล่อ มีจัดอ่านกันทุกเดือน ในแต่ละเดือนก็จะกำหนดเล่มประจำเดือนให้ลองอ่านกันก่อน มีเซสชั่นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  • Reading Party ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก theWHLESOME Book Club จัดขึ้นที่ The Commons ทองหล่อเช่นกัน ความแตกต่างคือไม่มีการกำหนดเล่ม ไม่ต้องคุยกันก็ได้ มาอ่านกันแบบสบายๆ ไปด้วยกัน
  • กิจกรรม Leave Your Phone ของเพจ ‘เพื่อนบ้านอารีย์’ ที่ชวนวางโทรศัพท์ แล้วมาดิจิทัลดีทอกซ์ ด้วยการอ่านหนังสือกัน ครั้งต่อไปจะจัดที่ไหนเมื่อไหร่ ติดตามในเพจได้เลย 

ใครรู้จักที่ไหน หรืออยากชวนเพื่อนใหม่ไปจอย แนะนำได้เลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง
พัฒนา Writerพัฒนา

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง