ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 24 นปช. คดีก่อการร้าย ปี53

ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 24 นปช. คดีก่อการร้าย ปี53

ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง นปช. คดีก่อการร้ายชุมนุมกดดัน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ให้ประกาศยุบสภา ปี 2553

วันที่ 14 ส.ค. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก(ศาลชั้นต้น) พิพากษายกฟ้อง 24 นปช. ในคดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กับแนวร่วมนปช. รวม 24 คน

ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 มาตรา 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216

และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 6 ข้อหา กรณีพวกจำเลยได้ยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 20 พฤษภาคม 2553 เพื่อกดดัน ต่อต้านรัฐบาล และบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นประกาศยุบสภา ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จตุพร พรหมพันธุ์ นปช.

โดยชั้นนำสืบพบว่า เป็นการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งได้มีการประกาศเปิดเผยโดยชัดเจนมาตลอดว่า รวมตัวโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธ ส่วนเหตุการณ์รุนแรงในแต่ละสถานที่นั้น ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดเป็นรายบุคคลก็ต้องพิจารณาดำเนินคดีเป็นรายไป ส่วนเหตุการณ์เผาห้างสรรพสินค้า ก่อนหน้านี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่า ไม่เกี่ยวกับ นปช. พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมา จึงยังไม่เพียงพอฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิด

รวมถึงมีคำพิพากษา ยกฟ้องข้อหาปล้นทรัพย์ที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิกและยกฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรองในข้อหาร่วมกันกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

หลังฟังคำพิพากษา นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์ว่า เคารพและน้อมรับคำตัดสินของศาล พร้อมขอบคุณญาติวีรชน ซึ่งคำพิพากษาได้ยืนยันกระบวนการพิสูจน์แล้วว่า นปช.ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย เป็นเพียงกลุ่มที่ต่อสู้ในหลักประชาธิปไตยภายใต้หลักสันติวิธี ครั้งนี้ยังไม่ใช่ชัยชนะ

ทั้งนี้ มองว่า คำพิพากษาจะเป็นอานิสงค์ให้ประชาชนที่อยุ่ในกลุ่มนปช.ที่ยังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งต้องมีการต่อสู้ต่อไปในชั่นศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ทั้งนี้นายณัฐวุฒิได้ฝากถ้อยคำถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า เราไม่ถือว่าคดีนี้ไม่ได้แพ้ชนะ ชัยชนะ ถ้าจะมีคือการต่อทางการเมืองที่ต้องเป็นชัยชนะของสังคม ซึ่งชัยชนะนั้นยังมาไม่ถึง

ธิดา ถาวรเศรษฐ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 24 นปช. คดีก่อการร้าย ปี53