นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ถึงเหตุผลที่จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพื่อสานต่อการปฏิรูปประเทศ
วันที่ 3 มิ.ย. 62 นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา อดีต สนช. ได้โพสต์ข้อความแจงถึงเหตุผลที่จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา เป็นนายกฯ ดังนี้
เหตุผลที่ผมจะเลือกบิ๊กตู่เป็นนายกฯ
พล อ.ประยุทธ์ และ คสช.ถูกโจมตีว่าต่อท่ออำนาจ ในการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเป็นแกนเสนอชื่อตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่5 มิ.ย.นี้
ไม่มีใครพูดว่า “เพื่ออะไร”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์
คำถามพ่วง หรือคำถามเพิ่มเติมที่ถามประชาชนในการทำประชามติร่าง รธน.แห่งราชอาณาจักรไทย 2560ฉบับนี้ มีว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”
ผลการออกเสียงประชามติ ประชาชนให้ความเห็นชอบ 15,132,050คน = 58.07%
ไม่ให้ความเห็นชอบ 10,926,648คน = 41.93%
ในขณะที่ประชาชนให้ความเห็นชอบรัฐธรรมนูญทั้งฉบับถึง 16,820,402 คน หรือ 61.35%
ก่อให้เกิดบทเฉพาะกาลของ รธน.ฉบับนี้ ที่ให้ ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกร่วมกับ ส.ส.เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการปฏิรูป เพราะการปฏิรูปอีกหลายอย่างยังไม่สำเร็จ หรือไม่สมบูรณ์เช่นการปฏิรูปตำรวจ หรือปฏิรูปการศึกษา แม้ว่าส่วนใหญของการปฏิรูปตามหมวด16ของ รธน. จะวางโครงร่างไว้ดีแล้วก็ตาม
มีการตรา กม.ยุทธศาสตร์ชาติ (20ปี) 2560 กม.แผนและการปฏิรูปประเทศ 2560 แผนแม่บท และปรับโครงสร้างสภาพัฒน์ รองรับการปฏิรูป
การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศตาม รธน. ครม.จะต้องมารายงานรัฐสภาทุก 3 เดือน ส.ส.และ ส.ว. มีหน้าที่ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการปฏิรูป หรือเข้าชื่อเสนอ ปธ.สภา ในกรณีที่เห็นว่าเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศตาม รธน.ม.270
รธน.จึงตราให้ ส.ว.มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 โดยให้ คสช.มีอำนาจเลือก ส.ว.ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหา 194 คน และจากการเลือกกันเอง 50 คน ตามมาตรา 269 (รวมมี ส.ว. โดยตำแหน่ง 6 คน)

(ภาพจาก Thaigov.)
สว.ตามบทเฉพาะกาลนี้มีระยะเวลาเพียง 5 ปีแรก ครบแล้ว ส.ว.ในลักษณะนี้ก็จะหมดไปเอง โดยไม่ต้องรอให้ปิดสวิทซ์
ดังนั้นการเลือกนายกรัฐมนตรี จึงต้องเลือกผู้ที่จะมาสานต่อการปฏิรูปตามหมวด16 พล อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศมาตลอดในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อย่างชัดเจน
ส่วนหัวหน้าพรรคอื่นที่จะมาเป็น Candidate นายกฯ ยังไม่เคยได้ยินใครว่าต้องการเข้ามาแล้วจะมุ่งมั่นเข้ามาปฏิรูปประเทศ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า จะเสนอใครมาสู้กับ พล อ.ประยุทธ์ ก็ตาม แต่เมื่อดูจากรายชื่อสามคนจากพรรคเพื่อไทย และผู้ที่พรรคอื่น (ที่มีสส.มากกว่า 25 คน) เสนอชื่อทั้งหมด ได้ยินเพียงว่าจะเข้ามาแก้ไข รธน.แห่งราชอาณาจักรไทย ที่ผ่านประชามติไปแล้วเท่านั้น
ประเด็นการปฏิรูป คือเหตุผลที่ผมจะเลือกพล อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ครับ
https://www.facebook.com/jetn.sirathranont/posts/2457197990980377









