สเปนลองจัดคอนเสิร์ตงานใหญ่ให้ผู้ร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยทุกคน พบช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

สเปนลองจัดคอนเสิร์ตงานใหญ่ให้ผู้ร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยทุกคน พบช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

COVID-19

สเปนทำการทดลองให้ผู้ร่วมงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นภายในอาคารสวมหน้ากากอนามัยทุกคน พบช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้

วันที่ 28 เม.ย. 2564 สเปนได้ทำการวิจัยด้วยการจัดงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ โดยให้ผู้ร่วมงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน พบว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้

การวิจัยดังกล่าวดำเนินขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการจัดงานคอนเสิร์ตของวง Love of Lesbian และเปิดให้แฟนเพลงเข้าร่วมงานราว 5,000 คน หลังจากที่ผ่านการทดสอบโควิด-19 และมีผลการตรวจเป็นลบ โดยกำหนดให้ผู้ร่วมงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ไม่มีการเว้นระยะทางสังคม

หลังจบคอนเสิร์ต ผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งในวันที่ 15 โดยพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยืนยันว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อทั้ง 6 คนมี 4 คนติดเชื้อมาจากที่อื่น

โจเซฟ มาเรีย ลิเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสเปนกล่าวว่า “ไม่พบสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่า มีการแพร่เชื้อเกิดขึ้นในระหว่างงานนี้”

ลิเบอร์ระบุว่า “การระบายอากาศที่เหมาะสม การตรวจแอนติเจน และการสวมหน้ากากอนามัย ทำให้เราสามารถทำให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยได้”

ขณะเดียวกัน จูเมต์ โคลโบนี นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรีเมืองบาร์เซโลนากล่าวว่า “ผลการศึกษานี้ ทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะผ่อนคลายข้อกำจัด และกลับมาเริ่มกิจกรรมทางวัฒนธรรมได้อีกครั้ง”

ด้าน Love of Lesbian ซึ่งเป็นวงดนตรีที่เล่นในงานนี้ ได้โพสต์ทวิตเตอร์ขอบคุณคณะนักวิจัยและผู้จัดงานโดยระบุว่า “เราหวังว่าผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ จะทำให้เสียงของโลกแห่งวัฒนธรรมถูกรับฟังอย่างที่มันควรจะเป็น”

ทั้งนี้ คอนเสิร์ตดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นแล้วมีคนมารวมตัวกันมากที่สุดในยุโรปตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาด และเกิดขึ้นในขณะที่หลายประเทศกำลังแสวงหาวิธีการใหม่ๆ ในการกลับมาจัดกิจกรรมต่างๆ อีกครั้งอย่างเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้เนเธอร์แลนด์ได้เคยทำการวิจัยในลักษณะนี้มาแล้ว

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง