มติศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 ถึง 31 ส.ค. ‘นพ.ทวีศิลป์’ แจงเพื่อควบคุมโควิด-19 ระบาด

มติศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 ถึง 31 ส.ค. ‘นพ.ทวีศิลป์’ แจงเพื่อควบคุมโควิด-19 ระบาด

ศบค. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึงสิ้นสุด 31 ส.ค. โฆษกชี้แจงเหตุผลเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19

วันที่ 22 ก.ค. ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติ ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ส.ค. 2563 โดยหลังจากศบค.ชุดใหญ่ มีมติแล้ว จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติต่อไป

ทั้งนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกาศใช้ครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. – 30 เม.ย.
– ต่ออายุ (ครั้งที่ 1) 1 พ.ค. – 31 พ.ค.
– ต่ออายุ (ครั้งที่ 2) 1 มิ.ย. – 30 มิ.ย.
– ต่ออายุ (ครั้งที่ 3) 1 ก.ค. – 31 ก.ค.
– ต่ออายุ (ครั้งที่ 4) 1 ส.ค. – 31 ส.ค.

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานเหตุผลให้ที่ประชุมศบค. พิจารณาขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโลกและยังคงมีการระบาดรุนแรง อีกทั้งยังมีคนไทยจากต่างประเทศและชาวต่างชาติที่ได้รับการผ่อนผัน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม (ผ่อนคลายเฟส 6)

นอกจากนี้ มาตรการผ่อนคลายภายในประเทศที่ดำเนินการอยู่ เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ต่อการแพร่ระบาดของโรค จึงมีความจำเป็นต้องมีการกำกับดูแล โดยเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดการระบาดของโรคภายในประเทศ

สำหรับความจำเป็นจึงขอขยายระยะเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนี้

1.จำเป็นต้องมีอำนาจตามกฎหมายเชิงป้องกันในการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ อาทิ ควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรในทุกช่องทาง, การจัดระบบติดตามตัว การกักตัวและเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย, มาตรการการควบคุมโรคที่สามารถบังคับใช้ได้อย่างครอบคลุมในทุกกิจกรรม/กิจการที่เกี่ยวข้อง

2. จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการวิกฤติการณ์ ในลักษณะการรวมศูนย์ที่ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการบูรณาการกำลังพลเรือน ตำรวจและทหารเข้าร่วมปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ฐานวิถีใหม่ (New Normal) จนกว่าจะมีกฎหมายฉบับอื่นมารองรับในอนาคต

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง