สุริยะชี้ “บิ๊กตู่” ทำให้ระบบคมนาคมขับเคลื่อน ต้องเป็นนายกฯ ต่อ

สุริยะชี้ “บิ๊กตู่” ทำให้ระบบคมนาคมขับเคลื่อน ต้องเป็นนายกฯ ต่อ

“สุริยะ” ลุกขึ้นอภิปรายเอง ชี้รถไฟฟ้าคืบหน้าที่สุดในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เช่นเดียวกับโครงสร้างพื้นฐานอย่างมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุผลสำคัญที่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ

วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 17.20 น. ที่ห้องประชุมทีโอที ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ตนขอใช้เวลาสั้นๆ ชี้แจงกรณีสมาชิกอภิปรายพาดพิงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งปิดเหมืองแร่อัคราไมนิ่งจนรัฐบาลถูกฟ้องร้อง 4 หมื่นล้านบาท

ข้อเท็จจริงคือ มีการฟ้องร้องเพียง 3 พันล้านบาทแม้จะมากแต่ก็น้อยกว่าที่พูดถึงเป็น 10 เท่า และการที่บอกว่ารัฐบาลจะแพ้ 100% นั้นไม่จริง เพราะตอนที่กระทรวงอุตสาหกรรมออกสัมปทานมีเงื่อนไขคือ บริษัทจะต้องรักษาสภาพแวดล้อม สารพิษสารปนเปื้อน ต้องกำกับดูแลเคร่งครัด แต่บริษัทไม่ได้ดูแลจริงจังทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ จนเป็นเหตุให้ท่านนายกฯ สงสารชาวบ้านจึงจำเป็นต้องสั่งปิดไม่ให้ทำกิจกรรมต่อไป ดังนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจึงมั่นใจว่าจะเป็นฝ่ายชนะ

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า วันนี้เรากำลังคิดว่าจะมีการโหวตนายกฯ เป็นการแข่งระหว่างท่านธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) กับ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีความชัดเจน มีผลงานเรื่องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ที่มีแผนแม่บทสร้าง 400 กิโลเมตร แต่ 30 ปีที่ผ่านมาทำได้เพียง 120 กิโลเมตร ช่วงที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ มาปรากฏว่าสร้างได้แล้วเกือบ 200 กม. และกำลังจะสร้างต่อไปอีกเป็น 100 กม.

และถ้าท่านประธานขับรถไปทางเขาใหญ่จะเห็นมีการสร้างมอเตอร์เวย์ใหญ่โตอีกไม่นานก็จะเสร็จ นี่คือผลงานที่เป็นรูปธรรม ดังนั้นตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคในที่ประชุมแห่งนี้ให้เป็นนายกรัฐมนตรีค่อไป

ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้แจ้งกับสมาชิกให้อภิปรายในประเด็นและรักษาเวลา โดยยังไม่กำหนดว่าจะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อใด

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง