นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ขับรถชนกับจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.ราชบุรี คู่กรณีเป็นวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาฉีก ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่านายทวีพยายามขับรถหนี ไม่ลงมาดูอาการคู่กรณีในตอนแรก
วันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้สื่อข่าวจาก จ.ราชบุรี รายงานว่า พ.ต.ท.ประดับ เชื้อโพหัก สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างราชบุรี ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณแยกสะพานข้ามคลองชลประทาน ถนนสายโรงพยาบาลโพธาราม – บ้านฆ้อง เขตเทศบาลเมืองโพธาราม จ.ราชบุรี แต่คู่กรณีกำลังขับรถจะหลบหนี
หลังจากได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E 300 สีบรอนซ์ ทะเบียน 6 กว 2384 กรุงเทพฯ กำลังขับหลบหนีอยู่บนถนนเส้นทางเลียบคลองชลประทาน โดยมีรถหน่วยกู้ภัยพยายามขับติดตามเพื่อขวางหน้าไว้ และสามารถขวางรถให้จอดไว้ได้ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แต่คนในรถไม่ยอมเปิดประตูลงมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามก็บอกว่าตนเองชื่อ ทวี ไกรคุปต์ จะขับรถไปธุระ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย ชาวบ้าน และแม่ของผู้บาดเจ็บเดินตามมาต่อว่าถึงพฤติกรรมที่จะหลบหนี
ต่อมานายทวี ไกรคุปต์ ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขับรถกลับไปดูคนบาดเจ็บ พบว่าเป็นชายอายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บนิ้วหัวแม่โป้งเท้าขวา และข้อเท้าขวาฉีกขาด
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านายทวี ไกรคุปต์ ได้ขับรถยนต์เบนซ์คันดังกล่าวออกมาจากตัว อ.โพธาราม ส่วนชายวัย 16 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 i สีดำขาว ทะเบียน 4 กฬ 3274 ราชบุรี มุ่งหน้าเข้า อ.โพธาราม ถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงข้ามสะพานทางแยก นายทวีขับรถจะเลี้ยวขวา ขณะที่ชายวัย 16 ปี ขี่รถทางตรงจะข้ามสะพาน จึงเกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้น
ภายหลัง นายทวี ได้เดินทางไปที่ สภ.โพธาราม เพื่อไกล่เกลี่ย ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ซ่อมรถจักรยานยนต์ และจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คู่กรณี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรียังเปิดเผยด้วยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุมีรถชนกัน เจ้าหน้าที่ได้รีบมายังจุดเกิดเหตุและรีบปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บ แต่คู่กรณีนั้นกลับขับรถคล้ายจะหลบหนี ไม่ยอมรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเช่นนั้นจึงบอกให้รถคู่กรณีลงมาดูคนเจ็บ แต่รถคู่กรณีกลับไม่สนใจ ไม่ยอมลงจากรถเพื่อมาดูคนเจ็บ และพยายามกลับรถไปอีกทาง เพื่อรถจะได้ขับต่อไปได้ จึงทำให้รถของคู่กรณีชนเข้ากลับประตูรั้วของประชาชน และเกือบชนกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ โชคดีที่เจ้าหน้าที่หลบทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
และหลังจากรถคู่กรณีขับไปได้แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปเส้นข้างคลองชลประทาน รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งจอดอยู่ตรงนั้นพอดี ทำให้รถคู่กรณีพยายามบีบแตรไล่รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้หลบไป จังหวะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถติดตามไปเพื่อให้รถคู่กรณีมายังที่เกิดเหตุ รถคู่กรณีจึงยอมขับรถกลับมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนไม่รู้เลยว่ารถคู่กรณีคือใคร จนเขาพูดขึ้นมาเองว่า “ผมคือ ทวี ไกรคุปต์” และมีการมาต่อว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกด้วย แต่ทุกคนก็ยังอดทนให้เกียรติไม่ตอบโต้ ไม่อยากให้เกิดปัญหาต่อกัน
