แม้ตัวเลขทางการจะชี้ว่าอัตราคนว่างงานไทยปี 2025 ต่ำเพียง 1% น้อยลงไปอีกจากปี 2024 ที่ตัวเลขคนว่างงานไทยอยู่ที่ระดับ 1.1%
แต่เบื้องหลังตัวเลขพวกนี้ก็กำลังบอกว่า ตลาดแรงงานไทยมีจุดที่น่าห่วงอยู่
ตัวเลข 1% มาจากข้อมูลของ IMF ผ่าน DataMapper ซึ่งรวบรวมอัตราว่างงานเฉลี่ยทั้งปี 2025
และถ้าไปดูสถิติรายเดือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานอัตราว่างงานไม่ปรับฤดูกาลในเดือน พ.ย. 2024 อยู่ที่ 0.94%
หมายความว่าตลาดแรงงานไทยโดยรวมดู “แข็งแรง” เมื่อเทียบกับหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายละเอียดเชิงโครงสร้างจะพบว่า
แรงงานนอกภาคเกษตร (non-agricultural employment) ยังมีช่องว่างให้พัฒนา ส่วนแรงงานภาคเกษตรมีช่วง “ฤดูไม่ได้ทำงาน” (seasonal unemployment) เป็นปัญหาซ้ำซาก ซึ่งไม่ถูกนับเป็นผู้ว่างงานตามนิยามทางสถิติ แต่สะท้อนว่ารายได้และการจ้างงานไม่สม่ำเสมอ
อัตราว่างงานคนรุ่นใหม่ (อายุไม่เกิน 24 ปี) แม้จะลดจาก 7% เหลือ 5.1% ระหว่าง พ.ค.–มิ.ย. 2024 แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปมาก แสดงว่าคนรุ่นใหม่ยังหางานถาวรได้ไม่ง่าย
อีกด้านหนึ่ง ตัวเลขต่ำยังสะท้อนว่า แรงงานจำนวนมากอยู่ในภาค “ไม่เป็นทางการ” (informal sector) และอาจถูกนับเป็น “มีงานทำ” แม้รายได้ไม่เสถียรหรือสภาพการจ้างงานไม่มีหลักประกัน
ปัจจัยที่ช่วยให้อัตราว่างงานทางการดูต่ำ ได้แก่
– การเติบโตของภาคบริการและภาคท่องเที่ยว ที่ดึงคนเข้าสู่การจ้างงานแบบไม่เป็นทางการ
– นโยบายกระตุ้นการจ้างงาน เช่น มาตรการพักชำระหนี้และเงินช่วยเหลือประชาชน
– ประชากรวัยทำงานลดลง (aging population) ทำให้แรงกดดันตัวหารในสูตรคำนวณอัตราว่างงานต่ำลง
ในทางกลับกัน ปัญหาที่ยังต้องเร่งแก้คือ
– คุณภาพงานและรายได้ ที่ไม่มั่นคง เนื่องจากสัดส่วนแรงงานอิสระและสัญญาจ้างชั่วคราวสูง
– การขาดทักษะตรงตลาด ที่ทำให้เยาวชนยังเข้าถึงงานถาวรได้ยาก
– ความผันผวนตามฤดูกาล ในภาคเกษตรที่สร้างช่องว่างรายได้นอกช่วงฤดูกาลปลูก
ภาพรวมตอนนี้อัตราว่างงานทางการต่ำเป็นสัญญาณบวกของภาพรวมตลาดแรงงาน แต่หากมองให้ลึกจะเห็นว่าประเทศยังต้องสร้างงานคุณภาพ สร้างระบบคุ้มครองแรงงานที่เข้มแข็ง และพัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของภาคอุตสาหกรรมและบริการ











