เรื่องของสิ่งแวดล้อม นวัตกรรม และทิศทางธุรกิจนับวันจะยิ่งกลืนเข้าหากันเรื่อยๆ อย่าง ‘นมวัว’ จากที่ดูเฉพาะแค่วิธีการเลี้ยงแม่วัว ก็หันมาเพิ่มทางเลือกพัฒนาเป็น ‘นมโปรตีน’ จนล่าสุดกำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ นมวัวแท้ๆ ที่ออกจากห้องแล็บ แทนนมจากเต้าแม่วัว
หากจะพูดว่าเป็นนมทางเลือกใหม่ก็ไม่เชิง เพราะต่างจากนมโปรตีน หรือนมจากพืชที่วางขายในตลาดตอนนี้ ซึ่งนมวัวห้องแล็บ จุดพลุครั้งแรกเมื่อ 4-5 ปีก่อนที่ ‘อิสราเอล’ ประเทศแห่งการคิดค้นนวัตกรรมตลอดเวลา ขณะที่นานาประเทศได้รู้จักกับกระบวนการผลิตนมวัวลักษณะนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากที่นี่ด้วย
[ The New Milk นมวัวห้องแล็บ ใช้ทุน 150 ล้านดอลลาร์ ]
อิสราเอลเป็นชาติแห่งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ จากข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่ขาดแคลนขั้นสุด กลับมีบริษัทยูนิคอร์นกว่า 90 ตัวในประเทศ และจุดกำเนิดของนวัตกรรมและเทคโนโลยีบางตัวก็เริ่มที่อิสราเอล อย่างเช่น ระบบน้ำหยดเพื่อการเกษตรที่แรกของโลก
และล่าสุด บริษัทสตาร์ทอัพของอิสราเอลเตรียมจะบุกตลาดนมวัวแท้ที่ผลิตโดยไม่ใช้นมจากแม่วัว ในชื่อว่า ‘The New Milk’ เป็นการผลิตจากโปรตีนนมแท้ๆ ที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยยีสต์ ซึ่งทำให้โปรตีนเหล่านี้มีองค์ประกอบทางเคมีเหมือนกับที่พบในนมวัวและผลิตภัณฑ์นม
เป็นเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์ที่ได้ถึงมีรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการคล้ายกันเกือบ 100% ที่สำคัญคือ มีน้ำตาลน้อยกว่านมจากเต้าแม่วัวถึง 75%
โดยเจ้าของนวัตกรรมนี้มาจาก บริษัท Remilk ร่วมมือกับ Gad Dairies แบรนด์นมชั้นนำของอิสราเอล ซึ่งเทคโนโลยีกระบวนการผลิต The New Milk ใช้เวลาพัฒนามากว่า 5 ปี มูลค่าการลงทุนกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,900 ล้านบาท) ซึ่งจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
ทางแบรนด์ Gad Dairies ได้เผยว่า ความต้องการนมทางเลือกไม่ว่าจะเป็นนมจากพืช หรือนมที่ไม่ได้มาจากแม่วัวแบบ The New Milk เป็นที่ต้องการสูงขึ้น เพราะผู้บริโภคยุคนี้ต่างจากยุคก่อน ที่สนใจที่มาของแบรนด์ สตอรี่ และกระทบเชิงสิ่งแวดล้อมที่แฝงมากับการทำธุรกิจ
กระแสตอบรับนมนวัตกรรมนี้ค่อนข้างดี หลังจากที่ทดลองวางขายในร้านนมและร้านกาแฟในอิสราเอล โดยกลุ่มที่สนใจส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 35 ปี
ขณะที่ทาง Remilk วางเป้าหมายว่า ภายในเดือนมกราคม 2026 จะเห็น The New Milk วางขายในห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งราคาขายน่าจะไม่ต่างจากนมประเภทอื่น ราคาใกล้เคียงกับประเภทนมทางเลือก เช่น นมถั่วเหลือง และ นมอัลมอนด์
หลังจากนั้น จะส่งออกไปต่างประเทศเป็นเป้าหมายถัดไป ซึ่ง ‘สหรัฐอเมริกา‘ จะเป็นประเทศแรกที่มี The New Milk วางขาย หากการเจรจาราบรื่น
[ 3 ประเทศตามอิสราเอล พัฒนานมวัวแท้ ไม่ใช้แม่วัว ]
มีรายงานว่า ในขณะที่อิสราเอล กำลังบุกตลาดในการวางขายจุดต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ ประเทศอื่นที่สนใจเรื่องของนวัตกรรมก็กำลังพัฒนาซุ่มพัฒนาเช่นกัน
สหรัฐอเมริกา: แม้ว่าในอนาคตนม The New Milk เตรียมจะส่งออกไปตลาดอเมริกา แต่ FDA หรือองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ให้ไฟเขียวสำหรับการใช้โปรตีนจากนมที่ปลูกในห้องแล็บ โดยบริษัทต่างๆ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ เช่น Brown Foods สตาร์ทอัพในบอสตันที่เริ่มสนใจ
สิงคโปร์: ประเทศที่เป็นที่รู้จักในฐานะประเทศแรกที่มีการอนุมัติเนื้อสัตว์ให้ปลูกถ่ายในห้องแล็บ ซึ่งล่าสุดได้อนุมัติให้พัฒนาผลิตภัณฑ์นมวัวที่ไม่ใช้วัวแล้ว
แคนาดา: หน่วยงานด้านสุขภาพของแคนาดาได้อนุมัติสร้างโปรตีนที่ไม่มีสัตว์ในกระบวนการคล้ายกับของ Remilk สำหรับใช้ในการผลิตอาหาร และอาจจะพัฒนาเป็นนมวัวเสริมด้วย
ด้าน Ori Cohavi ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Remilk อธิบายเพิ่มว่ากระบวนการผลิตนมวัวจากห้องแล็บจะลดการใช้ของแม่โคนมจริงๆ มากถึง 50,000-100,000 ตัว
นั่นหมายถึงรายจ่ายสำหรับค่าเลี้ยงสัตว์, อาหารสัตว์, จำนวนโคนมก็ลดลงตาม ในขณะที่ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเพราะลดกระบวนการบางอย่างของแม่วัวลง เช่น ก่อนรีดนมต้องดื่มน้ำกว่า 40 แกลลอนต่อวันถึงพร้อม
นอกจากนี้ ยังช่วยผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้จาก ‘การเรอ’ซึ่งมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีฤทธิ์รุนแรง และมาจากปศุสัตว์ถึง 45%
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์นมทางเลือกทั้งหมดจะเพิ่มเป็น 70,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ขณะเดียวกันมองว่ามีโอกาสที่จะครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์นมแบบดั้งเดิม 33% แต่จะเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งแบบช้าๆ
แม้ว่าตอนนี้ในตลาดไทยอาจจะยังไม่เห็นนวัตกรรมแบบนี้มากนัก แต่คิดว่าความเคลื่อนไหวของหลายๆ ประเทศตอนนี้น่าจะทำให้อุตสาหกรรมนมวัวเปลี่ยนไปบ้างปี 2026 ซึ่ง
ตอนนี้คงต้องดูฟีดแบ็กจากต้นปีหน้าก่อนว่าตลาดในอิสราเอลตอบรับในวงกว้างเกี่ยวกับ The New Milk อย่างไร และนมวัวแท้ๆ จากห้องแล็บจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน?










