ธรรมนัส ปัดเอี่ยววงจรกักตุนหน้ากากอนามัย ลั่นหาก ปชช.ไม่ต้องการพร้อมลาออกเอง

ธรรมนัส ปัดเอี่ยววงจรกักตุนหน้ากากอนามัย ลั่นหาก ปชช.ไม่ต้องการพร้อมลาออกเอง

“ร.อ.ธรรมนัส” ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องวงจรกักตุนหน้ากากอนามัย หลังเพจดังแฉ คณะทำงานเอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย “ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทราบผลภายในวันนี้ หากผิดจริงยันไม่เอาไว้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 มี.ค.63) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงต่อสื่อมวลชน ที่อาคารรัฐสภา ต่อกรณี นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี โพสต์ภาพคู่กับนายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานพร้อมโพสต์ขายหน้ากากอนามัยและกักตุนไว้กว่า 200 ล้านชิ้นว่า ตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับนายพิตตินันท์ โดยจะให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็จะลงโทษด้วยการให้ออกจากคณะทำงานของตนทันที พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีด้วย แต่จากการสอบถามเบื้องต้นนายพิตตินันท์ ยอมรับว่าไปพบกับนายศรสุวีร์จริง ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกเพราะต้องการไปเจรจาซื้อหน้ากากอนามัยไปแจกชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

และล่าสุดได้ให้ นายพิตตินันท์ ไปแจ้งความไว้ในพื้นที่แล้วเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับวงจรอุบาทว์นี้ ซึ่งได้ไปแจ้งความแล้วที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รวมถึงตนได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความกับนายศรสุวีร์ เพื่อเอาผิดฐานกักตุนสินค้า ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนเองนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการขายหน้ากากอนามัย พร้อมได้ให้ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ให้รีบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกักตุนหน้ากากจริง จะนำไปทลายวงจรนี้เอง

 

“ในยามที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ยังทำพฤติกรรมนี้อีก ตนรับไม่ได้และไม่เชื่อว่าจะกักตุนหน้ากากไว้ถึง 200 ล้านชิ้น เชื่อว่าขี้โม้มากกว่า แต่หากมีจริงตนได้ส่งคนไปตรวจสอบทางลับเพื่อตัดวงจรอุบาทว์นี้แล้ว” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

 

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กนายศรสุวีร์ พบว่า ที่ผ่านมามีการโพสต์ด่ารัฐบาลมาโดยตลอด แล้วทำไมถึงมีการนำภาพมาโพสต์ในลักษณะนี้ หวังผลอย่างหรือไม่ซึ่งตนไม่อยากจะคิด แต่หากพบว่ามีการกระทำเพื่อหวังจะล้มล้างรัฐบาลตนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม การออกมาโจมตีในครั้งนี้นั้นมองว่ามีการหวังผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ได้คะแนนน้อยที่สุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ตนทำงานไม่ใช่เล่นเกมการเมือง หากวันหนึ่งประชาชนเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็พร้อมจะลาออกทันที ส่วนคะแนนที่ตนได้นั้นถือว่าไม่น้อย เพราะหากได้คะแนนเสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ครบ 5 เสียง จะถือว่าเป็นเรื่องแปลก

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง