นครบาลจัดกำลัง 1 กองร้อย รักษาความปลอดภัยศาล ก่อนอ่านคำวินิจฉัยคดีธนาธร

นครบาลจัดกำลัง 1 กองร้อย รักษาความปลอดภัยศาล ก่อนอ่านคำวินิจฉัยคดีธนาธร

การรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างเข้มงวด ยกระดับการรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าวันวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งวันนี้ การอ่านคำวินิจฉัยจะมีขึ้น เวลา 14.00 น. มีการถ่ายทอดภาพและเสียง จากห้องพิจารณา มายังโถงหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

 

วันนี้ (20 พ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มประชุม เพื่อแถลงด้วยวาจาและลงมติในคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) จากกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่  สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยในช่วงบ่ายวันนี้

โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในเขตอำนาจศาล รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาติดตามรับฟังคำวินิจฉัยด้วยการติดตั้งโทรทัศน์ที่ถ่ายถอดมาจากห้องพิจารณาคดี

สำหรับแนวทางการดำเนินการอ่านคำวินิจฉัย สมาชิกภาพของ ส.ส.ของนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่วันนี้ เหตุจากการถือครองหุ้นสื่อวี-ลัคมีเดีย ระหว่างลงรับสมัครเลือกตั้งหรือไม่นั้น  ทางศาลรัฐธรรมนูญได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบเข้มงวดยกระดับเท่าการวินจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ  โดยเช้านี้มีนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรับธรรมนูญมาตรวจความเรียบร้อยก่อนเข้าประชุมร่วมกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเวลา 10.00 น.

นอกจากผู้ร้อง หรือ กกต.และผู้ถูกร้อง คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้ที่มาให้กำลังใจนายธนาธรแล้ว ยังมีตัวแทนจากสถานทูตอเมริกา 2 คน ขอเข้าร่วมรับฟังคำวินิจฉัยด้วย และขณะนี้มีประชาชนบางส่วนทยอยมายังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว


พร้อมกันนี้ก็ได้จัดเตรียมการถ่ายทอดภาพและเสียงจากห้องออกนั่งพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลงมาที่โทรทัศน์รับสัญญาณจากกล้องวงจรปิดที่เตรียมไว้ในห้องสื่อมวลชน  และบริเวณโถงด้านในอาคารรวม 4 จุด เพื่อให้ประชาชนแและมวลชนผู้ที่มาติดตามรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

ขณะเดียวกันสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขอความร่วมมือสื่อมวลชน ผู้ที่จะมาฟังคำวินิจฉัย ให้เข้าและออกที่ประตูทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้เท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้ผ่านบริเวณด้านหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญทางทิศเหนือ สำหรับตำรวจรับผิดชอบพื้นที่ คือตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง และตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เบื้องต้นวางกำลังไว้ 1 กองร้อย หรือราว 150 นาย

ส่วนพื้นที่รักษาความปลอดภัยของศาลมี 3 ชั้น ตั้งแต่พื้นที่ชั้นนอกหรือบริเวณโดยรอบศาลทั้งหมดที่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ ส่วนพื้นที่ควบคุมคือพื้นที่บริเวณที่ทำการศาล หรือภายในรั้วกั้นที่วางแผงเหล็กเป็นแนวเขตไว้แล้ว ผู้ที่จะเข้าได้จะเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น โดยมีกล้องวงจรปิดจับตาดูทุกสถานการณ์

และพื้นที่หวงห้าม หมายถึงห้องประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ห้องออกนั่งบังลังก์ พื้นที่เก็บสำนวนคดีหรือพื้นที่ที่ศาลกำหนด ผู้ที่เข้าได้ต้องได้รับอนุญาติจากศาลก่อนเท่านั้น


นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามายังพื้นที่เขตอำนาจของศาล ต้องปฏิบัติตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาลตั้งแต่ห้ามส่งเสียงดังรบกวน หรือกระทำการอื่นใดอันก่อความไม่สงบเรียบร้อย และศาลถือเป็นเขตปลอดอาวุธ เว้นแต่ได้รับอนุญาติจากศาล

รวมถึงต้องพึงระวังการวิพากวิจารณ์คำสั่ง คำวินิจฉัย หรือการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ หรือหากมีการกระทำเกินเลยถึงขั้นดูหมิ่นข่มขู่คุกคามศาล ผู้กระทำอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา และหากผู้ใดฝ่าฝืนละเมิดอำนาศาลยังมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนและหรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พรป.ว่าด้วยการพิจารณาดีของศาลมาตรา 39 วรรค 1

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง