หน.พรรคพลังชาติไทย ชี้ปมพรรคเล็กแยกเป็นฝ่ายค้านอิสระ เป็นความเห็นส่วนตัว

หน.พรรคพลังชาติไทย ชี้ปมพรรคเล็กแยกเป็นฝ่ายค้านอิสระ เป็นความเห็นส่วนตัว

(แฟ้มภาพ) พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย

“พล.ต.ทรงกลด” ชี้ ปมแยกเป็นฝ่านค้านอิสระของบางคนใน 10 พรรคเล็กเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ยืนยัน ไม่มีการต่อรองตำแหน่ง แล้วแต่นายกฯ จัดสรร ย้ำ 10 พรรคต้องมีคุยกันหามติ

เมื่อเวลา 08.50 น. วันนี้ (8 ส.ค.62) ที่รัฐสภา พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย (พพชท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเล็กจำนวนหนึ่ง เตรียมแยกตัวออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระ ว่า เมื่อวานกลุ่ม 10 พรรคได้คุยกันไปแล้ว ว่าต้องการจะร่วมงานกับรัฐบาล แต่มีบางท่านเห็นว่าไม่ได้รับตำแหน่งเตรียมการให้ แต่เชื่อว่านายกฯ จะเตรียมการให้

ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของการต่อรองตำแหน่ง เพียงแต่มีการเสนอตำแหน่งไป แต่ไม่ได้มีการตอบรับกลับมา เชื่อว่านายกฯ จะดูแลเพราะเคยได้รับปากไว้

อย่างไรก็ตาม 10 พรรคเล็ก จะต้องมีทิศทางไปในทางเดียวกัน แต่ต้องรอการประชุมเพื่อเป็นมติออกมาในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ส่วนที่มีกระแสว่า 4-5 คนจะแยกตัวออกมานั้น ความคิดเห็นเราอาจจะต่างกันบ้าง แต่เราเคยคุยกันไว้แล้วว่าจะทำอะไรก็ต้องเป็นมติออกมาถ้าเป็นเรื่องของประเทศ แต่ถ้าจะมีใครแหกมติก็ไม่เป็นปัญหา

ส่วนความเห็นของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นั้นก็เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นอาการน้อยใจก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามเราจะไม่ต่อรองอะไรกับทางรัฐบาลทั้งนั้น ส่วนตนจะไม่ได้ตำแหน่งอะไรก็ไม่มีปัญหา ทุกพรรคเพียงอยากนำนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนมาใช้ประโยชน์

“ผมไม่ทราบว่าคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้เขาต้องการอะไร แต่คิดว่าเป็นความเห็นส่วนตัว คงไม่ได้มีอะไรมาก ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าไม่ใช่การหาผลประโยชน์ การให้ข่าวก็ต้องระมัดระวังเพราะจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของทั้ง 10 พรรค ทั้งนี้ คิดว่าภายหลังการประชุม ครม. จะมีความชัดเจนในเรื่องของตำแหน่ง และวันนี้หากนายมงคลกิตติ์มาถึง ผมจะคุยกับน้องเขา” พล.ต.ทรงกลด กล่าว

เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ ออกมาระบุว่า ที่ออกมาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ใช่พ่อ และตัวเขาไม่ใช่คนของบริษัทรัฐบาล พล.ต.ทรงกลด กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกับนายมงคลกิตติ์ แต่คงไม่ถึงขั้นไปตักเตือน เพราะตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคทุกพรรค เพราะเรามีตำแหน่งเท่ากันและนายมงคลกิตติ์ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เชื่อว่าหากมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปด้วยดี

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง