วันที่ 19 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชี้แจงเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติเมื่อวานนี้ว่า การสอบถามและให้คำแนะนำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 มีเป็นครั้งแรก บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปด้วยดีตามเจตนารมณ์
“รัฐบาลทำในส่วนของรัฐบาลไปแล้ว สมาชิกท่านก็ทำในส่วนท่านได้เป็นอย่างดี ประมาณ 10 กว่าคนที่สอบถาม คำถามอาจจะซ้ำๆ กันบ้างแต่ผมก็ถือว่าเป็นแง่มุมของเขา เป็นเรื่องดี กิจกรรมตามมาตรานี้เป็นเรื่องน่าส่งเสริม”
เมื่อถามกรณีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านอภิปรายปิดตอนหนึ่งว่าเป็นการดึงฟ้าต่ำ นายวิษณุ ตอบว่า “ไม่มีอะไรชี้แจง” พร้อมกับยิ้ม
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า การชี้แจงยังมีรายละเอียดอีกแต่ถูกตัดบท ซึ่งตนเข้าใจได้ว่าเป็นเทคนิคทางสภา แต่ภาพรวมพอใจอย่างน้อยก็ได้โฆษณาหนังสือ (หลังม่านการเมือง) ซึ่งเขากำลังจะขอตีพิมพ์ใหม่อยู่ เมื่อถามต่อถึงหนังสือ “ลงเรือแป๊ะ” ที่เขียนถึงช่วงเวลาร่วมงานกับ คสช. นายวิษณุ ตอบว่า ตนเขียนอย่างเดียวไม่ทราบว่าจะพิมพ์เมื่อไร
ส่วนกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ จะเข้าชื่อยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และไปที่ศาลฎีกา โดยระบุว่า การที่รัฐบาลกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ เป็นการผิด พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ด้วยนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่กฎหมายฉบับนี้ใช้กับข้าราชการ ส่วนของนักการเมืองมีอีกฉบับหนึ่ง เป็นประมวลจริยธรรมฉบับหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญร่างขึ้นซึ่งใช้กับองค์กรอิสระทั้งหมด ใช้กับคณะรัฐมนตรี วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่าถ้าอย่างนั้นฝ่ายค้านจะยังใช้ช่องทางนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ตนไม่อยากไปตอบว่าได้หรือไม่ได้ แต่ขอวงเล็บไว้นิดเดียวว่ายื่นผ่าน ป.ป.ช. ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ จึงไม่มีองค์กรใดสามารถตรวจสอบ ซึ่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญใดนั้นก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รวมทั้งองค์กรอิสระ ซึ่งตั้งขึ้นมาตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าคิดว่าช่องทางนี้จะไปได้ ก็ไม่ได้มีปัญหารัฐบาลไม่ได้ติดใจอะไร
