วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ที่คนอยากรู้จักในชั่วข้ามคืน

วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ที่คนอยากรู้จักในชั่วข้ามคืน

กีฬา

ทำความรู้จักกับ วาตารุ เอ็นโดะ มิดฟิลด์ตัวรับที่กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก หลังตกเป็นข่าวกับลิเวอร์พูล

ในวัย 30 ปี วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางตัวรับ และกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ได้ผ่านประสบการณ์มามากมาย ตั้งแต่เริ่มค้าแข้งในญี่ปุ่น ติดทีมชาติชุดใหญ่ ย้ายมาเล่นที่เบลเยียมในปี ก่อนจะขยับไปเล่นให้กับสตุ๊ตการ์ตในบุนเดสลีกา 2 และพาทีมขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้ในที่สุด

แต่ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา ไม่มีช่วงไหนเลยที่จะปรากฎชื่อบนหน้าสื่อได้มากเท่ากับตอนนี้ หลังมีรายงานว่าลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ สนใจจะคว้าตัวไปร่วมทีม

แฟนบอลทุกคนรู้ดีว่าหงส์แดงกำลังมองหามิดฟิลด์เชิงรับ แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดว่าสุดท้ายจะมาเล็งเป้าที่กองกลางชาวญี่ปุ่นผู้นี้ 

สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามบุนเดสลีกาเป็นประจำ นัดล่าสุดที่ได้เห็นฝีเท้าของเอ็นโดะ คงจะเป็นเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่นแพ้ในการดวลจุดโทษให้กับโครเอเชียไป 1-3 หลังเสมอ 1-1 ในช่วง 120 นาที

ในเกมนั้น เอ็นโดะคือหัวใจสำคัญในแดนกลางของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีสถิติผ่านบอลแม่นยำที่สุดในทีม 88.1% เทียบชั้นได้กับคีย์แมนฝั่งตรงข้ามอย่าง ลูกา โมดริช (88.7%) ได้เลย อีกทั้งยังสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากที่สุดในสนาม 4 ครั้ง เท่ากับกองกลางคู่แข่งอย่าง มาร์เซโล โบรโซวิช

ส่วนในระดับสโมสร แม้ผลงานของสตุ๊ตการ์ตในฤดูกาลล่าสุดจะไม่ดีนัก จบอันดับ 16 ของตาราง แต่ฟอร์มส่วนตัวของเอ็นโดะก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว จากการทำไป 5 ประตู 4 แอสซิสต์

สถิติที่น่าทึ่งของเอ็นโดะอีกอย่างก็คือ ด้วยส่วนสูง 178 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับนักฟุตบอลในยุโรป ตลอด 3 ฤดูกาลในบุนเดสลีกา เขากลับเอาชนะในการดวลลูกกลางอากาศได้มากกว่า 58% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงชีวิตนักฟุตบอลของเอ็นโดะ แทบจะไม่เคยอยู่ในสถานะซูเปอร์สตาร์มาก่อนเลย โดยเว็บไซต์ด้านข้อมูลอย่าง transfermarkt เคยประเมินค่าตัวสูงสุดของเขาอยู่ที่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น แต่สิ่งที่หลายฝ่ายพูดตรงกัน คือกองกลางวัย 30 ปีคนนี้ถือเป็น ‘นักสู้’ ตัวจริง

อีก 1 ปัจจัยที่ทำให้เอ็นโดะเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ คือการที่เขาเป็นกัปตันทีมทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร ซึ่งสำหรับคนเอเชียแล้ว การมาเล่นในลีกสูงสุดของยุโรปและได้รับปลอกแขนเป็นผู้นำทีม นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

หลายคนมองว่าการที่ลิเวอร์พูลเล็งคว้าตัว เอ็นโดะ อาจเป็นเพียงแค่การหาผู้เล่นเข้ามาแก้ขัดจากวิกฤติในแดนกลาง ณ ขณะนี้ แต่พอลองพิจารณาดูจากหลายๆ ปัจจัยแล้ว การดึงนักเตะวัยเข้าเลข 3 ที่ค่าตัวไม่แพงนักในสภาวะตลาดแบบนี้ และสามารถใช้งานได้ในทันที อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของลิเวอร์พูลในตอนนี้ก็เป็นได้ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
บดินทร์Writerบดินทร์
นักข่าวต่างประเทศ นักท่องโซเชียลมีเดีย นักดูกีฬา
สนใจความเป็นไปของโลกและชื่นชอบการสื่อสารเรื่องราว

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง