บนเส้นทางหลักที่เชื่อมภาคตะวันออกกับหลายภูมิภาคของประเทศ ด้านหน้าทางเข้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี มีวิหารจีนทรงกลมตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม นั่นคือ วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม “อี่ ทง เทียน ไท้” สถานที่ที่ไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรมทางศรัทธา หากแต่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่พักใจ เป็นจุดรวมพลังความเมตตา และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดปราจีนบุรี
TODAY มีโอกาสพูดคุยกับ ‘เทียนไท กีระนันทน์’ ผู้รับผิดชอบดูแลโครงการวิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ พื้นที่แห่งความสงบ ที่เชื่อมฟ้า–ดิน–หัวใจ ณ กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาบอกเล่าเรื่องราวความน่าสนใจของจุดเริ่มต้นและเจตนารมณ์ของ ‘บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา’ ประธานเครือสหพัฒน์ ในการสร้างวิหารแห่งนี้
[ จุดเริ่มต้นขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จากหยกขาวสู่ศูนย์รวมศรัทธา ]
องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐานภายในวิหารแห่งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่มีจุดเริ่มต้นย้อนกลับไปกว่า 10 ปี คุณเทียนไทเล่าว่า องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้เป็นหยกขาวชิ้นใหญ่ที่ได้มาจากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า มีผู้มอบให้กับ ‘บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา’ ประธานเครือสหพัฒน์ ก่อนจะถูกส่งไปแกะสลักโดยช่างฝีมือชาวจีน ณ กรุงปักกิ่ง และเดินทางกลับมายังประเทศไทยทางเรือ ขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อปี พ.ศ. 2557 หลังจากนั้น องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ประดิษฐานชั่วคราว ณ พรหมสถาน สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี ก่อนจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดการสร้างวิหารอย่างเป็นรูปธรรมในปี พ.ศ. 2558

โดยองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมมีขนาดความสูง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน ฐานบัวสูง 0.45 เมตร หนัก 0.78 เมตร ฐานมังกรสูง 1.02 เมตร หนัก 4.95 ตัน และฐานแปดเหลี่ยมสูง 0.91 เมตร หนัก 5.9 ตัน
[ แรงบันดาลใจจาก “หอบูชาฟ้า เทียนถาน” สู่สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธา ]
หนึ่งในความโดดเด่นของวิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” คือรูปแบบสถาปัตยกรรมที่จำลองมาจาก หอบูชาฟ้าหรือหอสักการะฟ้า เทียนถาน ณ กรุงปักกิ่ง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง ใช้ประกอบพิธีขอฟ้าขอฝน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน

‘เทียนไท’ เล่าว่า ท่านประธาน มองว่า เทียนถานเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วไปในอดีตเข้าไม่ได้ ก็เลยคิดว่ารูปแบบลักษณะนี้ เหมาะกับการประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม นอกจากนี้ยังมีการผสานความเชื่อดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยตัววิหารถูกออกแบบเป็น ผังวงกลม หลังคาซ้อน 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว ซึ่งเป็น กระเบื้องโซลาร์เซลล์ชนิดฟิล์มบาง ประกบกระจกเทมเปอร์ 2 ชั้น

ภายในวิหารเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เชิงมงคลและความหมายทางจิตวิญญาณ ตั้งแต่ชั้นใต้ดินที่มีเสาทั้งหมด 12 ต้น แทน 12 เดือน และเสาวงนอกอีก 12 ต้น แทนเวลา 12 ชั่วยาม ฝ้าเพดานตกแต่งด้วยลวดลาย มันดาลา (Mandala) หรือ “มณฑล” สัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ในพุทธนิกายวัชรยาน (ทิเบต) โดยรอบยังประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่าง ๆ รวม 11 ปาง ขณะที่ด้านบนสุดติดตั้ง เสาล่อฟ้า ซึ่งคุณเทียนไทอธิบายว่า เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อพลังระหว่างฟ้าและโลกมนุษย์

[ ความรู้สึกแรกเมื่อก้าวเข้ามา “เย็น สงบ และเบาสบาย” ]
แม้วิหารจะตั้งอยู่กลางแจ้ง แต่ผู้มาเยือนจำนวนมากกลับรู้สึกตรงกันว่า“ทันทีที่ก้าวเข้ามา ความรู้สึกเย็นและสงบเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด”

‘เทียนไท’ กล่าวถึงความตั้งใจของสถานที่แห่งนี้ว่า “อยากให้คนที่มาที่นี่รู้สึกดี รู้สึกเย็นลง แล้วก็ไม่ว่าประสบปัญหาอะไรอยู่ รู้สึกว่ามันมีทางออก สถานที่นี้เป็นการเพิ่มโอกาสในชีวิต ให้ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้ตกตะกอน คิดหาทางออก ก็เหมือนหลักอริยสัจ 4”
[ จากศูนย์รวมศรัทธา สู่แลนด์มาร์คใหม่ของปราจีนบุรี ]
นอกจากบทบาทด้านจิตใจ วิหารแห่งนี้ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของการสร้างภาพจำใหม่ให้กับ กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี “ถ้าเมื่อก่อนถามว่าปราจีนมีอะไร อาจนึกไม่ค่อยออก แต่ตรงนี้เป็นจุดเชื่อมต่อของหลายภูมิภาค เป็น Junction สำคัญ วันนี้เรามีทั้งสถานที่ มีวิหาร มีองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ตรงนี้ก็จะเป็นแลนด์มาร์คมากขึ้นกว่าเดิม” ‘เทียนไท’ กล่าวเสริม
[ สะท้อนปรัชญา ‘การให้’ ของคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ]
สำหรับ ‘เทียนไท’ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” คือภาพสะท้อนเจตนารมณ์ของ ‘บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา’ ประธานเครือสหพัฒน์ อย่างชัดเจน “มันคือการให้ก่อน ไม่ใช่แค่เมตตา ถ้าเราให้ก่อน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะได้กลับมาหรือไม่ คนให้จะใจฟู และสิ่งดี ๆ มักจะสะท้อนกลับมาเอง เป็นกำไรทั้งในแง่ความรู้สึก เศรษฐกิจ และสังคม”
[ ‘ความสงบ – การให้ – การให้โอกาสกับตัวเอง’ ]
เมื่อถามถึงการจำกัดความสถานที่แห่งนี้ ‘เทียนไท’ เลือก 3 คำที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ “ความสงบ การให้ และการให้โอกาสกับตัวเอง ถ้าเราเข้าใจตัวเองได้ มีสติ มีปัญญา สิ่งที่เคยมองว่าเป็นปัญหา มันอาจไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”

[ กบินทร์บุรี เมืองที่กำลังเติบโต กับพื้นที่พักใจของผู้คน ]
ในมุมมองเชิงภาพใหญ่ กบินทร์บุรีไม่ใช่เพียงเมืองทางผ่าน แต่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมยุคใหม่ ที่กำลังเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และชุมชน วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” จึงถูกวางบทบาทให้เป็นมากกว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเสมือน ‘Public Park’ ทางจิตใจ พื้นที่ที่ผู้คนสามารถเข้ามาใช้เวลา พักผ่อน ทำสมาธิ และกลับออกไปพร้อมพลังใจที่เบาขึ้น ‘เทียนไท’ กล่าวทิ้งท้าย
วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม “อี่ ทง เทียน ไท้” เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 06.00–20.00 น. (โถงใต้ดินเปิด–ปิดเวลา 06.00–18.00 น.) มีกำหนดวันสักการะประจำปีในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และมีการจัดกิจกรรมตามวันสำคัญและเทศกาลต่างๆ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้
โดยสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ของวิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ ได้ทาง Line OA: @Yitongtiantai เฟซบุ๊ก วิหารกวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ https://www.facebook/Yitongtiantai IG: guanyinpavillion และเว็บไซต์ Yitongtiantai.com











