
ประเด็น – ลุงตีรถ เข้าพบตำรวจรับทราบ 3 ข้อกล่าวหา รับสารภาพ ป่วยเส้นเหลือดในสมองแตกมาก่อน ทำให้หงุดหงิดง่าย ขณะเกิดเหตุก็โมโหที่ถูกบีบแตรใส่
จากเหตุการณ์คลิปจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ ผู้เสียหาย(เจ้าของคลิป) ได้ขับรถส่วนตัวมาตามถนนดอนจั่น-สันกำแพง ถึงหน้าห้างพรอมเมด้า ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลา 13.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค.ทีผ่านมา และได้มีคนขับโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงินขับมาปาดหน้าขวางบังคับให้จอด ช่องทางออกจากถนนดอนจั่น-สันกำแพง จะเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลนซ้ายสุดของถนนทางเข้าห้างพรอมเมด้า จากนั้นคนขับอายุประมาณ 50 – 60 ปี เดินลงจากรถมา มือซ้ายถือไม้เท้าปรี่เข้ามาตีกระจกหน้ารถด้านขวาจนแตก 2 ครั้ง ขณะที่คนในรถก็ตะโกนบอกว่า “รถผมมีเด็กนะครับคุณ” ทำให้เด็กที่นั่งมาด้วยในรถส่งเสียงร้อง แต่ชายคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ยังตีเข้าที่กระจกอีกครั้ง และมีผู้หญิงที่นั่งมาในรถที่ติดกล้องได้กล่าวขอโทษ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ
https://www.facebook.com/santiphap.viriyothai/videos/10154895038462027/
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. (4 ธ.ค.60) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียก นายพรพรหม โทณวนิก อายุ 60 ปี เป็นอดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ผู้ก่อเหตุ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับคู่กรณีคือ นายสันติภาพ วิริโยทัย อายุ 31 ปี เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ คนขับรถวีออส มากับภรรยาที่กำลังท้องอยู่และลูกชายวัย 1ขวบ
เบื้องต้น นายพรพรหม ถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว

โดยนายพรพรม ยอมรับผิดและรับว่า “ตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อน หลังจากที่ป่วยเส้นเหลือดในสมองแตกเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ทำให้เป็นคนที่หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ขณะเกิดเหตุมาคนเดียว เกิดความโมโหหลังถูกบีบแตรใส่ ทำให้คุมตัวเองไม่อยู่”

ทางด้าน นายสันติภาพ เผยว่า “ขณะเกิดเหตุขับรถมาตามตามคลิปภาพ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อคู่กรณีลงมาพร้อมไม้เท้าก่อนที่จะทุบรถ และพยายามทำร้าย ใช้วาจาข่มขู่ตลอดเวลา ทั้งสองคนจึงพยายามตั้งสติอยู่แต่ในรถ และพยายามพูดขอโทษ บอกว่ามีเด็กอยู่ในรถ แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมหยุดทุบรถ ภรรยาต้องใช้มือปิดตาลูกชายเพราะกลัวเศษกระจกกระเด็ดเข้าตา และแม้ว่าเหตุการณ์ผ่านไปแล้วแต่ลูกชายยังอยู่ในอาการผวาตลอดทั้งคืน”

ด้าน พ.ต.อ.ปิยพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ข้อหาที่แจ้งไปเป็นข้อหาที่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ที่โรงพัก แต่เนื่องจากคดีนี้มีพฤติการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติและส่งฟ้องต่อศาล โดยไม่เปรียบเทียบปรับที่โรงพัก “









