
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด (ซ้าย) ซีเนดีน ซีดาน (ขวา)
“ซีเนดีน ซีดาน” กุนซือเมืองน้ำหอมของเรอัล มาดริด ประกาศอำลาทีม หลังเพิ่งพาราชันชุดขาวคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน
ซีเนดีน ซีดาน กุนซือคนเก่งของทีมพร้อมด้วยฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด แถลงการณ์อำลาสโมสรหลังคุมทีมมา 3 ปี ทำเอาบรรดาแฟนๆของ “โลส บรังโกส” ช็อกกันทั่วโลก ซึ่งในตอนแรกที่ทางสโมสรประกาศว่าจะมีการแถลงเกี่ยวกับอนาคตของซีดาน ทุกคนต่างก็คิดว่าคงจะเป็นการต่อสัญญาการคุมทีมออกไป หลังชิซูเหลือสัญญาคุมทัพในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวถึงปี 2020
โดยทางซีดานกล่าวในการแถลงครั้งนี้ว่า “ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เป็นโค้ชมาดริดต่อซีซั่นหน้า ซึ่งผมได้พูดคุยกับท่านประธานเปเรสแล้วในเรื่องนี้ ผมรู้ว่ามันทำให้ทุกๆ คนตกใจ แต่ผมได้ตัดสินใจแล้ว ทีมนี้ต้องคว้าชัยชนะต่อไปและต้องมีการเปลี่ยนแปลง คนใหม่, แนวทางการทำงานในแบบที่แตกต่าง”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจลาทีม เรอัล มาดริดคือสโมสรที่ผมรักและผมก็รักท่านประธานมากเช่นกัน เขาเป็นคนนำผมมาอยู่ที่สโมสรอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ นับเป็นพระคุณอย่างมาก แต่ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้นผมจะไม่อยู่ที่นี่ต่อไปฤดูกาลหน้า”
“บางทีเราอาจจะ ‘พบกันใหม่’ ผมจะยังคงอยู่ใกล้ชิดกับเรอัล มาดริดต่อไป”

หากย้อนดูสิ่งที่ชิซูทำตลอด 3 ปีกับเรอัล มาดริด เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลูกศิษย์ของมาเซลโล่ ลิปปี้ผู้นี้คือยอดกุนซือแห่งยุคเลยทีเดียว แม้หลายคนมองว่าซีดานก็คงไม่มีฝีมือเท่าไหร่หรอก ที่คว้าแชมป์ได้ก็เพราะมีนักเตะเก่งอยู่แล้ว แต่หากพูดตามหลักความจริงแล้วการคุมทีมใหญ่ย่อมยากกว่าคุมทีมเล็กอยู่แล้ว และยิ่งเป็นทีมใหญ่ระดับเรอัล มาดริดด้วยแล้วนับว่าหินสุดๆ เพราะคุณต้องสู้กับความคาดหวังของบอร์ดบริหารและเหล่าสาวกโลส บรังโกส ที่สูงลิบลิ่ว อันเป็นปัจจัยที่กดดันคุณอย่างมาก
ไหนจะต้องบริหารจัดการนักเตะซุปตาร์ที่อุดมไปด้วยอีโก้ จะมีกุนซือสักกี่คนบนโลกที่สามารถดร็อปคริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นตัวสำรองได้ และยิ่งไปกว่านั้นจะมีกุนซือของเรอัล มาดริดสักกี่คนที่กล้าให้โอกาสกับนักเตะเยาวชนมากเท่าที่ซีดานทำ
และที่สำคัญที่สุดจะมีกุนซือคนไหนในโลกที่พาทีมเป็นยุโรป 3 ฤดูกาลติดต่อกัน (ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมอื่นมาก่อนเลย) ชิซูพาทีมได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปีติดต่อกัน,ได้แชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย แชมป์โคปา เดล เรย์ 1 สมัย,แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และแชมป์ สโมสรโลก 2 สมัย ซี่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น จะมีกุนซือสักกี่คนที่ทำได้ขนาดนี้

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศสคนปัจจุบัน (เสื้อขาว)
อนาคตของซีดาน สถานีต่อไปคือที่ไหน?
ในการแถลงอำลาทีม ซีดานได้เปรยถึงแพลนในอนาคตไว้ว่า “ผมจะยังไม่ไปคุมทีมอื่นในฤดูกาลหน้า และผมไม่ได้มองหาทีมใหม่” แต่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า บางทีชิซูอาจหันไปรับงานคุมทีมระดับทีมชาติก็ได้ ซึ่งทีมชาติดังกล่าวคือทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยเหตุผลที่ว่าดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือคนปัจจุบันจะหมดสัญญาคุมทีมลงหลังจบบอลโลก 2018 และชิซูเองก็เป็นตำนานของทีมชาติ อาจมีความเป็นไปได้ว่าซีดานอาจเดินตามรอยเดส์ชองส์รับงานคุมทีมตราไก้ก็เป็นได้

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตนายใหญ่ของอาร์เซนอล
ใครจะเข้ามาคุมเรอัล มาดริดแทน
นับเป็นงานหินอย่างมากสำหรับกุนซือคนต่อไปของเรอัล มาดริด เพราะหากดูจากผลงานที่ซีดานทำไว้ มันจึงสร้างความกดดันให้กับกุนซือคนใหม่อย่างหนักหนา แต่สื่อหลายสำนักรวมทั้งบริษัทพนันถูกกฎหมายต่างยกให้ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตนายใหญ่ของอาร์เซนอลที่ประกาศอำลาทีมปืนใหญ่ไปไม่นาน เป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นกุนซือของเรอัล มาดริดในฤดูกาลหน้า ซึ่งนับว่าน่าสนใจเลยทีเดียวว่าหากกุนซืออย่างเวนเกอร์ได้คุ้มทีมที่มีทรัพยากรนักเตะพรั่งพร้อม และมีเงินทำทีมให้อย่างมหาศาล เวนเกอร์จะทำทีมชุดขาวออกมาได้สวยหรูขนาดไหนกับฟุตในแบบฉบับของเขา นอกจากนั้นยังมีชื่อกุนซืออย่าง อันโตนิโอ คอนเต้, โยอาคิม เลิฟ, กูตี, เยอร์เก้น คล็อปป และเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

บิซันเต้ เดล บอสเก้ ตำนานโค้ชของเรอัล มาดริดและทีมชาติสเปน
ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ ?
การอำลาทีมของซีดานในครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งที่บิซันเต้ เดล บอสเก้ อดีตนายใหญ่ของราชันชุดขาวโดนปลดจากตำแหน่งในหน้าร้อนปี 2003 หลังพาทีมประสบความสำเร็จมามากมาย จนทำให้ทีมมีผลงานตกลงอย่างหนัก ทีมจบฤดูกาลแบบมือเปล่าสองปีรวด ซึ่งการอำลาทีมของซีดานในครั้งนี้อาจจะทำให้ทีมเผชิญกับวิกฤต เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ราชันชุดขาวเผชิญหลังการโดนปลดของเดล บอสเก้
ที่มา Zinedine Zidane announces shock Real Madrid resignation









