หลังจากที่สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และ แคนาดา ได้เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2026 ร่วมกันจากการชนะโหวตโดยสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า เมื่อวันพุธที่ 13 มิ.ย. 61
.
โดย 3 ชาติจากอเมริกาเหนือ ได้คะแนนโหวตถึง 134 จากทั้งหมด 203 จากการลงมติของสมาชิก ฟีฟ่า ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยเอาชนะ โมร็อกโก ที่ได้ 65 เสียงไป
.
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปร่วมโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ในงานประชุมสามัญของฟีฟ่าที่ประเทศรัสเซีย เปิดใจกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์มาจากประเทศรัสเซีย ถึงการเลือก สหรัฐ อเมริกา,เม็กซิโก และแคนาดา เป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งนี้ว่า มีความพร้อมที่หลากหลายกว่า และหวังว่าไทยจะมีลุ้นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอนาคต
. “สาเหตุที่เลือก สหรัฐ อเมริกา,เม็กซิโก และแคนาดา เป็นเจ้าภาพผมพิจารณาข้อดีข้อเสีย และความพร้อมต่างๆ พวกเขามีความพร้อมมากกว่า” บิ๊กอ๊อดกล่าว
“เราเลือกจากรายงานการตรวจความพร้อมของฟีฟ่า ซึ่งให้คะแนนโดยรวมกับโมร็อกโกที่ 2.4 จาก 5 คะแนน ขณะที่ 3 ชาติเจ้าภาพร่วมได้ 4 จาก 5 คะแนน”
“ส่วนเรื่องความพร้อมของสนามแข่ง โมร็อกโก ต้องสร้างใหม่อีก 9 สนาม ขณะที่ อเมริกา เสอมา 23 สนาม จากที่ฟีฟ่าต้องการแค่ 16 สนาม นอกจากนี้ในส่วนของรายได้ที่การันตีให้กับฟีฟ่า ทั้ง 3 ประเทศสามารถการันตีให้ได้ 1.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่โมร็อกโกให้ 7 พันล้าน”
“ซึ่งรายได้ของฟีฟ่า จะกลับคืนมาสู่ประเทศสมาชิกในเรื่องของการบริหารจัดการและโครงการพัฒนาต่างๆ ในอนาคต เนื่องจากการพัฒนาวงการฟุตบอลด้านต่างๆ ต้องได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ”
“ที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ต่อไปนี้ฟีฟ่าน่าจะเอาเป็นตัวอย่างว่า การจัดฟุตบอลโลกในอนาคตเนี่ยไม่จำเป็นต้องมีประเทศเดียว ที่เป็นเจ้าภาพ”
“อาจจะมีหลายๆประเทศ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพก็ได้ มันเป็นโอกาสดีของประเทศเล็กๆนะครับอย่างประเทศไทยในอนาคต”
“ถ้าลำพังประเทศไทยประเทศเดียวคงเป็นได้ยากที่จะจัดฟุตบอลโลกโดยลำพัง ถ้าเรารวมตัวกันในรูปแบบการเป็นเจ้าภาพ เช่านอาเซียนรวมกันเป็นเจ้าภาพก็มีความเป็นไปได้ในอนาคตครับ”
ต่อข้อถามถึงฟุตบอลโลก 2026 ที่มีโควต้าเพิ่มขึ้นเป็น 48 ทีมนั้น ประมุขบอลไทยย้ำว่า เมื่อเพิ่มทีมเราก็มีโอกาส แต่ยังให้ความสำคัญกับฟุตบอลโลก 2022 ในอีก 4 ปีข้างหน้าเป็นอันดับแรก
“ถ้าเอเชียมีโควต้าเพิ่มขึ้น ก็ถือว่าประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะได้เข้าร่วมแข่งขัน”
“เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อโอกาสวันนั้นมาถึงครับ เพราะถือว่าโอกาสเพิ่มมากขึ้น พื้นที่เพิ่มมากขึ้น เราต้องมองไปข้างหน้านะครับ”
“แต่ไม่ได้หมายความว่าปี 2022 เราจะไม่เห็นความสำคัญนะ เราไม่ได้ปล่อยปะละเลย ในปี 2022 เราต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้”
“แต่ว่าในปี 2026 พื้นที่มันมากขึ้น โอกาสมันก็มากขึ้น ผมไม่ได้ปล่อยปะละเลยปี 2002 เพียงแต่ปี 2026 เรามีโอกาสมากขึ้น” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลทิ้งท้าย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ และ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ จะร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดฟุตบอลโลก 2018 ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) และร่วมชมเกมนัดเปิดสนามระหว่างรัสเซีย เจ้าภาพ กับ ซาอุดิ อาระเบียด้วย
โดยฟุตบอลโลก 2026 จะได้กลับไปจัดบนทวีปอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งตอนนั้นจัดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
