
นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาขอโทษแฟนฟุตบอลทีมชาติไทย หลังจากผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยนัดล่าสุดแพ้ให้กับทีมชาติอินเดีย ในศึกเอเชียนคัพ จนนำมาสู่การปลด “มิโลวาน ราเยวัช” พร้อมแสดงความมั่นใจว่า อีก 2 แมตซ์ที่เหลือผลงานจะดีขึ้น
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดใจครั้งแรกหลังปลด มิโลวาน ราเยวัช อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยว่า ต้องขอกราบขออภัยแฟนบอลชาวไทย ที่ผลงานของทีมชาติไทยออกมาไม่ดี ทำให้แฟนบอลชาวไทยรู้สึกผิดหวังกับผลงานในครั้งนี้ แต่ขอเรียนว่า สมาคม และตัวผมเองก็ได้พยายามดีที่สุด การสรรหาหรือการเลือกโค้ชมาทำหน้าที่ เราก็หวังว่าโค้ชคนนั้นจะสร้างผลงานได้ดี เราก็เพียงศึกษาจากโปรไฟล์หรือผลงานของเขาเท่านั้น แต่ถ้าอยู่กันไปแล้วผลงานออกมาไม่ดีก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงโค้ชที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากข้อตกลงสัญญาที่มีต่อกันว่า ถ้ามีการแข่งขันผลออกมาไม่ดีก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง หรือขุ่นข้องหมองใจในทีม การแข่งขันยังไม่จบสิ้น ภารกิจของทีมชาติไทยยังไม่จบสิ้น เราก็ต้องทำกันต่อไป
ขณะนี้เราให้ “ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย” ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน (เฮดโค้ช) และโชคทวี พรหมรัตน์ ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เราก็พยายามทำดีที่สุดในภาวะการณ์ หรือบุคลากรที่มีอยู่ในขณะนี้ แต่จากการฝึกซ้อมหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในทีมขณะนี้ ทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดี นักกีฬา และทีมงานอยู่ในสภาพพร้อมจะทำหน้าที่ในอีก 2 แมตซ์ข้างหน้า จากการพูดคุยนักกีฬาและโค้ช คิดว่า น่าจะสร้างผลงานได้ดีขึ้นในอีก 2 แมตซ์ ที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจและแรงเชียร์จากแฟนบอลชาวไทย
สำหรับตำแหน่ง โค้ชคนต่อไปของทีมชาติไทย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า โดยกติกาการคัดเลือกโค้ชทีมชาติไทยมีชัดเจน คือ 1. โค้ชที่จะมาทำหน้าที่ เฮดโค้ชนั้นใครก็ได้ จะเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่พร้อมหรือเต็มใจที่จะมาทำงานตรงนี้ 2. คนนั้นจะต้องบรรลุข้อตกลง หรือยอมรับในเงื่อนไข กติกาของสมาคม คือ ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายทั้งโค้ชและสมาคม ต้องยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีฝืนใจกัน 3. โค้ชคนนั้นต้องมีคุณสมบัติเหมาะสม และเป็นไปตามความต้องการของสมาคม และสุดท้าย เรื่องที่สำคัญที่สุดคือค่าจ้าง ซึ่งเป็นปัญหาของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
“เราไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนต่างประเทศ เช่นจีน หรือประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ที่เขาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาคเอกชนทุกวันนี้สมาคมยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองก็เป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดในการเลือกโค้ช ย้ำอีกครั้งนะครับ โค้ชใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสมาคมที่วางไว้”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของนักเตะทีมชาติไทย จะลงแข่งขันในศึกเอเชียนคัพกับทีมชาติบาห์เรน ในวันที่ 10 ม.ค.นี้
ที่มา : FB เกรียนซ่าบ้าบอล









