
ตร.ไทยร่วมกับทางการฟิลิปปินส์ บุกจับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางกรุงมะนิลา หลอกคนไทยนานนับปี รวบชาวไทยและไต้หวัน รวม 19 คน พบใช้ E-Banking เลี่ยงการตรวจสอบ
วันที่ 14 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว วางแผน กับ น.อ.(พิเศษ) พลวัตร อินทรวิเศษ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำกรุงมะนิลา และ นายบ๊อบบี้ รา เควโป้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าว พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรม ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนนำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบ้าน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตอาราบัง กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ หลังทราบว่าเป็นศูนย์สั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยมานานกว่าหนึ่งปี

จากการตรวจค้น พบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในประเทศไทย และมีชาวไต้หวันอีก 3 คน ควบคุมสั่งการ ยึดของกลางอุปกรณ์สื่อสาร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด สมุดบัญชีธนาคาร รายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง บทอ้างอิงหน่วยงานที่กำหนดไว้ เพื่อใช้คุยกับเหยื่อ เช่น หน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน

โดยผู้ต้องหาคนไทยที่ถูกจับยอมรับว่าทำหน้าที่โทรศัพท์หลอกเงินคนไทย ซึ่งบทสนทนาส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของการส่งสินค้ากลับไปต่างแดน แต่ทั้งหมดยังอ้างว่า ถูกหลอกให้มาทำงาน ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลการเดินทางที่ระบุว่า มีการเข้า-ออก ระหว่างไทยและฟิลิปปินส์หลายครั้ง โดยผู้เสียหายรายล่าสุด อยู่ใน จ.นนทบุรี ถูกหลอกให้โอนเงินไปเกือบ 2,000,000 บาท ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหากลุ่มนี้หลบเลี่ยงการตรวจสอบ ด้วยการเปลี่ยนวิธีโอนเงิน จากเดิมที่กดเงินในไทย หันไปใช้บริการ E-Banking ในการรวบรวมเงิน ซึ่งสามารถทำรายการที่ใดก็ได้ทั่วโลก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า การจับกุมเครือข่ายนี้ ไทยได้รับความร่วมมือจากทางการฟิลิปปินส์เป็นอย่างดี เป็นการทำงานตามแนวทาง One World One Team หรือ ตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก ซึ่งหลังผ่านขั้นตอนของทางการฟิลิปปินส์ กลุ่มชาวไทยจะถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทยต่อไป









