
ประเด็นคือ – คุมตัวหนุ่มเจ้าของบัญชีแก๊งคอลเซนเตอร์ หลังสาวแบงก์ไลฟ์สดหลอกแก๊งคอลเซนเตอร์สนทนาจนได้ข้อมูล สอบสวนพบเป็นช่างซ่อมรถแค่รับจ้างเปิดบัญชี
วันที่ 1 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีบนโลกออนไลน์ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “NaNa Nana Knc” ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารสาวรายหนึ่ง ได้ทำการไลฟ์สดขณะที่เธอถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ โทร.มาอ้างว่า บัญชีของเธอเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และมีการโอนสายไปยังชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจยศใหญ่ ซึ่งทางพนักงานสาวเองรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว จึงเล่นตามน้ำไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายพนักงานสาวก็ได้เลขบัญชีของคนร้าย จนนำมาสู่ของการค้นหาข้อมูล และทราบทั้งชื่อ ที่อยู่ และอาชีพ ก่อนที่สุดท้าย พนักงานสาวจะเฉลยว่านี่คือการไลฟ์สด และหนึ่งในจำนวนคนดูก็มีตำรวจอยู่ด้วย ส่วนคนร้ายเมื่อโดนพนักงานสาวเฉลยก็วางสายไปโดยไม่เอ่ยลาใดๆ ทั้งสิ้น
https://www.youtube.com/watch?v=oGrZZ66uQXM
ล่าสุด วันนี้ พ.ต.ท.จิรัฏฐ์ จิรพัชรศิรพร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 163 ถ.พระแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อติดตามตัว นายพูลสวัสดิ์ คำภีระแปง อายุ 37 ปี หลังจากที่ได้ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นหมายเลขบัญชีที่แก๊งคอลเซนเตอร์ระบุไว้ตามที่พนักงานสาวได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก
โดยตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวก็ไม่พบใครอยู่ภายในบ้าน เมื่อสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ยืนยันว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมี นายพูลสวัสดิ์ หรือ โย พักอยู่ที่บ้านหลังนี้จริง แต่ได้ออกไปทำงานเป็นช่างซ่อมรถซึ่งอยู่ร้านใกล้ๆ บ้าน ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบพบว่า นายพูลสวัสดิ์ได้ขับจักรยานยนต์ออกไปจากร้านซ่อมรถก่อนที่ตำรวจจะตามเจอตัวนายพูลสวัสดิ์อีกครั้งที่บ้าน โดยบอกว่าจะเดินทางไปธนาคารเพื่อปิดบัญชี ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง

จากการสอบถาม นายพูลสวัสดิ์ คำภีระแปง เล่าว่า ตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวแค่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเท่านั้น ซึ่งมีคนมาติดต่อให้ตนเปิดบัญชีโดยจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 1,000 บาท ส่วนคนที่มาจ้างก็เป็นใครไม่รู้ ตนไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นคนลำปาง และมาเจอกันโดยบังเอิญ จึงได้มีการพูดคุยชักชวนกันให้มาทำงานดังกล่าว โดยทำแบบนี้ยังไม่ถึงเดือน และในวันที่ไปเปิดบัญชีก็มีอีก 3 คนที่ไปเปิดบัญชีพร้อมกับตนเองด้วย ซึ่งคนที่ติดต่อก็ได้เจาะจงว่าเป็นธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งธนาคารตอนเปิดบัญชีก็เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่เตรียมไว้ให้แล้วโดยไม่ใช่เบอร์ของตนเองแต่อย่างใด และในวันนี้ ก็จะได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว

หลังจากกรณีดังกล่าว ได้มี 2 ทนายความ คือ ทนายเกิดผล แก้วเกิด และ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กพูดถึงเรื่องนี้ แต่ทั้งสองกลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
โดยทางด้านทนายรณณรงค์ ได้ออกมาโพสต์ว่ากรณีดังกล่าวนั้นพนักงานสาว มีความผิดฐานเปิดเผยความลับของลูกค้าในขณะที่เป็นพนักงาน และสมควรที่จะถูกไล่ออก โดยระบุข้อความว่า “พ.ร.บ ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 มาตรา 154-155 ห้ามมิให้บุคคลผู้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของลูกค้าโดยเหตุที่เป็นผู้มีอำนาจในการจัดการหรือเป็นพนักงาน และเปิดเผยความลับนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า หรือเข้ากรณียกเว้นอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เปิดเผยเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนหรือพิจารณาคดี เปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการให้สินเชื่อ เปิดเผยให้แก่บริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจทางการเงินเดียวกัน เป็นต้น”

แต่ขณะที่ทนายเกิดผล แก้วเกิด ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กโต้แย้งกับสิ่งที่ทนายรณณรงค์ ได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่จริงแล้วกรณีนี้พนักงานสาวไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด เนื่องจากขณะเกิดเหตุมิจฉาชีพมีเจตนาหลอกลวงพนักงานสาวในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่หลอกลวงในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานของสถาบันทางการเงิน ส่วนการที่พนักงานสาวหลอกลวงคนร้ายจนได้เลขที่บัญชีมานั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของคนร้าย ไม่ใช่ข้อมูล หรือกิจการของสถาบันการเงินแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทนายเกิดผล ยังบอกอีกว่า “ถ้าสาวพนักงานถูกคนร้ายแจ้งความจริง หรือ ถูกธนาคารไล่ออกเพราะเหตุข้างต้นนั้น ทนายเกิดผล ก็ยินดีที่จะเป็นทนายความให้อีกด้วย”










