ประเด็นคือ – ทหารรวบ 8 เมียนมาลักลอบเข้าประเทศ นั่งรถสองแถวสาย กระบุรี-ชุมพร หวังเข้าไปทำงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมตบตาเจ้าหน้าที่
วันที่ 8 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้รับรายงานจากจุดตรวจทหารศิลาสลัก กองร้อยทหารราบที่ 2521 ชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 บริเวณพื้นที่ ม.1 ตำบล จ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ว่าขณะที่ ร.ต.สุธานนท์ พุ่มสร้าง หัวหน้าห้าจุดตรวจทหารศิลาสลัก พร้อมด้วย จ.ส.อ.นรินทร์ มิ่งขำ จ.ส.อ.บุญรอด ตรีทอง จ.ส.ท.คำรณ คชสุวรรณ ด.ต.เอกสิทธิ์ แก่นอินทร์ และเจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.415 พร้อมกำลังพลอีกจำนวนหนึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณจุดตรวจตามปกติ ได้ทำการเรียกตรวจรถโดยสารสองแถวไม้ วิ่งเส้นทาง อ.กระบุรี-จ.ชุมพร ซึ่งมีชาวเมียนมานั่งอยู่ภายในรถจำนวนหลายคน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอทำการตรวจหนังสือเดินทางและหนังสืออนุญาตทำงาน ซึ่งทั้งหมดก็ส่งหนังสือให้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ดูรูปจากหนังสือเดินทางที่ชาวเมียนมาส่งให้ดู กลับไม่ใช่รูปของบุคคลดังกล่าว จึงเชิญชาวเมียนมาทั้งหมดลงจากรถเพื่อตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดทุกคน โดยพบว่า หนังสือเดินทางที่ใช้ทั้ง 8 คน ไม่ใช่ของตนเอง
จากการสอบถาม นส.มูมู วิน ซึ่งมีเอกสารเดินทางถูกต้องเพียงคนเดียวทราบว่า ตนเองเป็นคนพาแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 8 คน มาขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยัง จ.ชุมพร และจะขึ้นรถเดินทางต่อไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปทำงาน เพราะชาวเมียนว่าทราบว่าประเทศไทยจะขึ้นค่าแรงให้อีกจากเดิม 300 บาท โดยทั้งหมดเดินทางมาจากหลายพื้นที่ของประเทศเมียนมา
โดยมี นางดีดี ที่อยู่ จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา นำทั้ง 8 คน มาส่งที่แนวชายแดน จากนั้นตนเองก็ไปรับมา เพื่อไปส่งให้ถึง จ.ชุมพร ซึ่งตนเองจะดำเนินการซื้อตั๋วเดินทางให้ทุกคน โดยตนเองได้รับค่าจ้างจาก นางดีดี คิดเป็นรายค่าหัวคนละ 1,200 บาท ทำมาแล้ว 6 ครั้ง รอดจากการตรวจของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกรอบที่มาจะมีผู้โดยสารมาก จึงตบตาเจ้าหน้าที่ได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีผู้โดยสารอื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบละเอียดจึงรู้ว่าเป็นการใช้เอกสารของคนอื่น ซึ่งเอกสารดังกล่าว นางดีดี เป็นผู้จัดหาให้ชาวเมียนมา
ด้านคนขับกล่าวว่า รับชาวเมียนมาทั้งหมดมาจาก บขส.กระบุรี สอบถามว่ามีเอกสารหรือไม่ ทุกคนบอกว่ามีจึงยอมให้ขึ้น โดยไม่ทราบว่าเป็นเอกสารปลอม จากนั้นได้ประสานไปยัง สภ.ปากจั่น เพื่อมารับตัวชาวเมียนมาทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
