เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 อาจเป็นประสบการณ์สัมผัสกับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งแรกในชีวิตของคนไทยหลายๆ คน แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ตามมาจากเหตุการณ์ในวันนั้น คือการย้ำเตือนให้ต้องเปลี่ยนความคิดว่า “แผ่นดินไหว ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป”
ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา หากสังเกตดีๆ จะเห็นคำว่า ‘แผ่นดินไหว’ ปรากฏขึ้นมาทั้งในรายงานของสื่อหลัก และถูกพูดถึงในโซเซียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นเรื่องดีที่แสดงให้เห็นว่า สังคมไทยเริ่มมีความตระหนักต่อภัยธรรมชาติมากขึ้น ในทางกลับกัน บทสนทนาต่างๆ เกี่ยวกับแผ่นดินไหวในโลกออนไลน์ก็อาจยิ่งเป็นการตอกย้ำความรู้สึกตื่นเต้นกังวลที่ยังไม่เลือนหาย
แต่เมื่อเราหลีกหนีจากภัยธรรมชาติไม่ได้ การเรียนรู้และทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้ อาจช่วยให้ความกังวลลดน้อยลง ในวันครบ 1 เดือน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมาสะเทือนถึงประเทศไทย สำนักข่าวทูเดย์ขอเป็นอีกหนึ่งสื่อกลาง พาไปทำความเข้าใจปรากฏการณ์แผ่นดินไหว พร้อมตอบทุกคำถามที่หลายคนอยากรู้
‘แผ่นดินไหว’ เกิดประจำทุกวัน สักที่ในโลก
แม้แผ่นดินไหวเมื่อเดือนที่แล้วจะเป็นครั้งแรกที่คนไทยหลายๆรับรู้แรงสั่นสะเทือนด้วยตัวเองแต่จริงๆแล้วแผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดเป็นประจำทุกวันในพื้นที่ต่างๆทั่วโลกเพียงแต่หากเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กแรงสั่นเทือนอาจจะไม่มากจนทำให้มนุษย์สัมผัสได้
สาเหตุของแผ่นดินไหวเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรืออาจเกิดจากการกระทำของมนุษย์เช่นการทดลองระเบิดปรมาณูหรือการระเบิดเหมืองแร่อย่างรุนแรง
แต่ที่เราจะอธิบายวันนี้ คือแผ่นดินไหวตามธรรมชาติ ดังที่เกิดกับเมียนมาเมื่อเดือนที่ผ่านมา สาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวในลักษณะนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก
โลกที่เราอาศัยอยู่กันทุกวันนี้ ประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกหลายๆ แผ่นปะติดปะต่อกัน คล้ายจิ๊กซอ โดยมีแผ่นเปลือกโลกหลักๆ ประกอบด้วย แผ่นยูเรเชีย (Eurasian Plate), แผ่นอเมริกาเหนือ (North American Plate), แผ่นอเมริกาใต้ (South American Plate), แผ่นอินเดีย–ออสเตรเลีย (Indian-Australian Plate), แผ่นแอฟริกา (African Plate), แผ่นแอนตาร์กติก (Antarctica Plate) และแผ่นอาหรับ (Arabian Plate)
แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้เป็นแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของประเทศหรือทวีปต่างๆบางประเทศอาจจะตั้งอยู่ในแผ่นเปลือกโลกแผ่นเดียวอย่างประเทศไทยอยู่ในแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียหรือบางประเทศก็อาจจะอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกพอดีเช่นจีนอินโดนีเซียตุรกีอินเดียญี่ปุ่นซึ่งจะสังเกตได้ว่าประเทศเหล่านี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเพราะเปลือกโลกจะมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาพอมีการขยับตัวแรงๆบริเวณรอยต่อก็ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเป็นแผ่นดินไหวขึ้นมา
ทำไมประเทศไทยถึงมีแผ่นดินไหว
แม้ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกมองว่าโชคดีมากๆ เพราะไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก จึงมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะในแผ่นเปลือกแต่ละแผ่น ก็ยังมีรอยร้าวเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่น
ซึ่งบริเวณที่เป็นที่ตั้งของประเทศ ก็มีรอยร้าวของแผ่นเปลือกโลกพาดผ่านอยู่ รอยร้าวที่ว่านี้ หรือที่เรียกว่า ‘รอยเลื่อน’ ก็ยังแบ่งออกเป็น รอยเลื่อนที่ไม่มีพลัง คืออยู่นิ่งๆไม่เคลื่อนไหวมานานมากเป็นหมื่นๆ ปีแล้ว กับรอยเลื่อนที่ยังมีพลัง หรือคือรอยเลื่อนที่ยังมีการเคลื่อนไหว สะสมพลังงานอยู่ ซึ่งในไทยมีรอยเลื่อนมีพลังอยู่ 16 รอยเลื่อนที่ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพียงแต่อาจจไม่ใช่การเคลื่อนตัวแบบแรงๆอย่างการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกเลยทำให้ไม่ได้มีการสั่นสะเทือนรุนแรงมาก
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เป็นเพราะเกิดการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนสะกายซึ่งเป็นหนึ่งในรอยเลื่อนที่ยังทีพลังและมีขนาดใหญ่ที่สุดที่พาดผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แม้ว่าจะรอยเลื่อนนี้จะไม่ได้พาดผ่านประเทศไทยโดยตรงแต่ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากประเทศไทยมากนักเมื่อมีการเคลื่อนที่อยากรุนแรงจึงส่งผลให้แรงสั่นสะเทือนส่งมาถึงประเทศไทยด้วย
รอยเลื่อนในไทยน่ากลัวแค่ไหน
แต่ถึงแม้ว่ารอยเลื่อนในประเทศไทยจะเป็นรอยเลื่อนเล็กๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าไทยไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวเลยซะทีเดียว เพราะต้องไม่ลืมว่า ไทยเองก็มีรอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่ถึง 16 รอยเลื่อน พาดผ่านพื้นที่ 23 จังหวัดได้แก่
รอยเลื่อนแม่จัน – เชียงราย, เชียงใหม่
รอยเลื่อนแม่อิง – เชียงราย
รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน – แม่ฮ่องสอน, ตาก
รอยเลื่อนเมย – ตาก, กำแพงเพชร
รอยเลื่อนแม่ทา – เชียงใหม่, ลำพูน, เชียงราย
รอยเลื่อนเถิน – ลำปาง, แพร่
รอยเลื่อนพะเยา – พะเยา, เชียงราย, ลำปาง
รอยเลื่อนปัว – น่าน
รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ – อุตรดิตถ์
รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ – กาญจนบุรี
รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ – กาญจนบุรี, อุทัยธานี, สุพรรณบุรี
รอยเลื่อนระนอง – ระนอง, ชุมพร, ประจวบฯ, พังงา
รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย – สุราษฎร์ฯ, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต
รอยเลื่อนเพชรบูรณ์ – เพชรบูรณ์, เลย
รอยเลื่อนแม่ลาว – เชียงราย
รอยเลื่อนเวียงแหง – เชียงใหม่
รอยเลื่อนเหล่านี้ล้วนแต่สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ในอนาคตเพียงแต่มีการประเมินว่าโอกาสเกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนเหล่านี้ยังน้อยอยู่
แผ่นดินไหว พยากรณ์ล่วงหน้าไม่ได้
ถึงมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวน้อยมากในประเทศไทยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะชะล่าใจกันได้อย่างเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าต่อให้แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นจากรอยเลื่อนที่อยู่ในประเทศไทยแต่ไทยก็ยังมีโอกาสได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านด้วยเหมือนกัน
ที่สำคัญคือ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน เวลาใด แต่สิ่งที่ทำให้ล่วงหน้าก็คือการเตรียมพร้อมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับแผ่นดินไหวที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมการระบบเตือนภัย ออกแบบก่อสร้างอาคารให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว และที่สำคัญคือการให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
วิธีการเหล่านี้อาจช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวให้น้อยลงได้ เช่นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ อย่างที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นประจำ จึงมีการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า ให้สามารถเตือนภัยประชาชนได้ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แม้จะเป็นการเตือนภัยได้ล่วงหน้าแค่ในเวลาสั้นๆ เป็นหลักวินาที แต่หลายครั้งระบบเตือนภัยก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ช่วยลดความเสียหายได้จริง
สังเกตุแผ่นดินไหวได้จากพฤติกรรมสัตว์
แม้แผ่นดินไหวจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่มีสัญญาณเตือนแต่การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวรวมถึงพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆก็อาจช่วยบอกเหตุเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ซึ่งตอนนี้มีหลายประเทศกำลังทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง
โดยปรากฏการณ์ธรรมชาติที่อาจสังเกตได้ก่อนเกิดแผ่นไหวอย่างเช่นอยู่ดีๆพื้นดินอาจจะยกตัวหรือยุบตัวขึ้นมาอย่างผิดปกติระดับน้ำในทะเลหรือในแหล่งน้ำธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงหรือพฤติกรรมที่แปลกไปของสัตว์ต่างๆเช่นสุนัขแมวแสดงอาการกระวนกระวายมีท่าทางผิดปกติไปหรือนกบินไปมาในทิศทางที่ดูแปลกๆ
ผ่านมา 1 เดือนเต็ม หลายคนอาจยังตระหนกกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 แต่เรื่องสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือการเรียนรู้จากอดีตที่ผ่านไปแล้วเพื่อเตรียมรับมือในอนาคต










