
ประเด็นคือ – ลูกผู้เสียหายร้องเทศบาลนครนนทบุรี โพสต์รายชื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุขึ้นเว็บทำมิจฉาชีพสวมรอยสูญเงินกว่า 7 หมื่น ขณะเทศบาลอ้างทำตามระเบียบองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
วันที่ 30 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” โพสต์ข้อมูลว่ามีผู้สูงอายุ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกโอนเงินออกจากบัญชี 7.8 หมื่นบาท โดยลูกสาวผู้เสียหายพบว่ามิจฉาชีพนำข้อมูลผู้สูงอายุมาจากเว็บไซต์ของเทศบาลนครนนทบุรี
https://www.youtube.com/watch?v=OL65wCVcNIE
โดยในวันนี้ ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ได้พูดคุยกับ คุณฝน ลูกสาวของผู้เสียหาย จากกรณีดังกล่าว ซึ่งเธอได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เธอได้อยู่กับมารดา เวลาประมาณ 12.00 น. มารดาของตนได้รับสายโทรศัพท์ จากเบอร์ 02-022-7128 โดยปลายสายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งหนึ่ง โทรมาแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ “เบี้ยค่าครองชีพผู้สูงอายุ” ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการพิเศษจากรัฐบาลชุดนี้ แต่ยังไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ และจะได้รับเงินอีก 1,000 บาท โดยให้มารดาของเธอนั้นลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์และจะโอนเงินเข้าบัญชี ที่มารดาของเธอได้เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ปลายสายยังสามารถบอกข้อมูลมารดาของเธอได้ถูกต้อง เช่น ชื่อ นามสกุล / วันเดือนปีเกิด/ หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก/ ที่อยู่/และหมายเลขบัญชีของธนาคาร ทำให้มารดาของเธอหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารดังกล่าวจริง จึงได้บอกรหัสเอทีเอ็มไป

ในขณะเดียวกัน เธอเห็นมารดาของเธอคุยโทรศัพท์นานผิดสังเกตและได้ยินว่ามีการสอบถามข้อมูลส่วนตัว เมื่อวางสายจึงได้สอบถามกับมารดาว่าคุยกับใคร จึงเริ่มเอะใจจากนั้นได้ขอดูเมสเสจมือถือของมารดา ปรากฏว่าได้รับเมสเสจจากธนาคารแห่งหนึ่งแจ้งว่า มีการเปลี่ยนเบอร์มือถือและมีการโอนเงินออก 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 7.8 หมื่นบาท ทำให้เธอรู้ ณ ตอนนั้นแล้วว่า มารดาของเธอตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ลูกสาวผู้เสียหาย ได้ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา และตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงทราบข้อมูลส่วนตัวของมารดาเธอทั้งหมด ประกอบกับมีคนส่งข้อมูลรายชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2559 ของเทศบาลนครนนทบุรี มาให้เธอดู ปรากฏพบมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุทั้งหมดผ่านเว็บไซด์เทศบาลนครนนทบุรี ในพื้นที่ 5 ตำบล คือ ต.ตลาดขวัญ, ต.สวนใหญ่, ต.ท่าทราย, ต.บางเขน และ ต.บางกระสอ ทำให้เธอมั่นใจว่าข้อมูลที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้มานั้น อาจจะมาจากจุดนี้ ประกอบกับมารดาไม่เคยให้ข้อมูลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกับใคร

จากนั้นทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้พาคุณฝน ลูกสาวของผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ นายประสิทธิพงศ์ ดีวาจิน รองนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว นายประสิทธิพงศ์ กล่าวว่า การที่เทศบาลได้มีการลงข้อมูลอย่างละเอียดผ่านเว็บไซต์นั้น เป็นไปตามระเบียบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องมีการเปิดเผยรายชื่อ หมายเลขบัตรประชาชน ของผู้สูงอายุ จากข้อมูลที่ผู้เสียหายได้นำมาเป็นหลักฐานเบื้องต้นต้องตรวจสอบที่มาก่อนว่า มาจากเว็บไซด์ของเทศบาลนครนนทบุรีจริงหรือไม่ ตนก็เพิ่งเคยเห็นข้อมูลที่มีรายละเอียดขนาดนี้ ที่ลงแม้กระทั่งชื่อธนาคาร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่า การลงหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวของประชาชนผ่านเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ ? นายประสิทธิพงศ์ ยืนยันว่าสามารถทำได้เพราะเป็นระเบียบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และหากสมมติว่ามาจากทางเว็บไซต์ของเทศบาลจริง ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุไตรวจสอบข้อมูล และไม่คิดว่าจะเกิดช่องโหว่เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพก่อเหตุได้

จากการตรวจสอบของทีมข่าวเวิร์คพอยท์ พบว่า ยังมีหลายเทศบาลในต่างจังหวัดที่มีการเปิดเผยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในพื้นที่ ผ่านประกาศบนเว็บไซต์ โดยระบุชื่อที่อยู่และหมายเลขบัตรประชาชนไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงเตือนให้ผู้สูงอายุระมัดระวังเรื่องการให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่น









