ว่าที่ส.ส.ผู้พิการอนาคตใหม่ ลั่นอุดมการณ์ตีค่าเป็นเงินไม่ได้

ว่าที่ส.ส.ผู้พิการอนาคตใหม่ ลั่นอุดมการณ์ตีค่าเป็นเงินไม่ได้

FEATURES

หลังมีกระแสว่าที่ส.ส.อนาคตใหม่ตกเป็นเป้าหมายชักชวนย้ายพรรคการเมืองว่า ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ หรือ “เม่น ไทยแลนด์ ” ผู้พิการรายแรกในประเทศไทยที่ได้ตำแหน่งว่าที่ส.ส. จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด บอกทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า ปัจจุบันยังไม่มีใครติดต่อมา แต่สำหรับตนแล้วเข้าร่วมอนาคตใหม่เพราะอุดมการณ์ซึ่งตีค่าเป็นเงินไม่ได้ และเชื่อว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์จะยืนยันเหมือนกัน

ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ หรือ เม่น ไทยแลนด์ ว่าที่ ส.ส.ผู้พิการรายแรกในประเทศไทย

“ผมมองว่าการที่เขาจะจีบใครสักคนต้องมีที่มา ต้องเช็กก่อนว่าคนนี้มีความคิดอย่างไร ต่อสังคมบ้างเราเขาถึงจะกล้าจีบ” ปริญญากล่าว “ถ้าพูดถึงการมาจีบผมก็ไม่ค่อยง่าย เป็นไปไม่ได้ มาจีบเพื่อให้เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ผมบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้”

“ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวอนาคตใหม่เข้ามาด้วยอุดมการณ์ เข้ามาด้วยความเชื่อที่ว่าอนาคตใหม่จะนำไปสู่ชีวิตใหม่ และจะนำไปสู่อนาคตใหม่ของลูก ๆ หลาน ๆ ของเรา” ปริญญาชี้ว่าตนเองก็เพิ่งมีลูกสาวอายุ 6 เดือน 11 วัน และมีความเชื่อเหมือนที่พรรคอนาคตใหม่และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ที่เชื่อว่าเราจะต้องส่งต่ออนาคตที่คนเท่าเทียมกันให้กับลูกหลานของเรา

เมื่อถามต่อว่า ที่ผ่านมามีข่าวลือว่าว่าที่ส.ส.อาจได้ข้อเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ 5-20 ล้าน เพื่อย้ายพรรค ซื้อใจได้หรือไม่? เม่นไทยแลนด์กล่าวว่า “ไม่อยากจะบอกว่าซื้อได้หรือไม่ได้ แต่ถามหน่อยว่าใครกล้าจะประเมินอุดมการณ์ของผมได้บ้างว่าจะมีค่าเท่าไหร่”

ส่วนมั่นใจในตัวเพื่อนร่วมพรรคมากแค่ไหน ส.ส.เมืองตรังของพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า “ต่างคนก็มีความหลากหลายที่จะเข้ามา แต่สิ่งที่เราเข้ามาตรงนี้เหมือนกันคืออุดมการณ์ เราเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ผมเชื่อว่าทุกคนในพรรคอนาคตใหม่ก็ต้องการอนาคตใหม่ ๆ เหมือนกัน ผมเชื่อว่าการซื้อขายแบบนี้เป็นไปไม่ได้”

นอกจากนี้ยังกล่าวเชิญชวนให้พรรคการเมืองต่าง ๆ เข้ามาร่วมกันกับพรรคการเมือง “ฝ่ายประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นชื่อเรียกการรวมตัวที่พรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่และพรรคการเมืองต่าง ๆ ตั้งขึ้นเพื่อร่วมต้านการสืบทอดอำนาจของคสช. โดยนายปริญญาเชื่อว่านี่เป็นหัวใจหลักของการก้าวไปสู่สังคมที่ดีกว่าได้

“เม่น ไทยแลนด์ ” เป็นชาวเมืองตรังอายุ 43 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลับรามคำแหง ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเกษตรกรเพาะปลูกกล้าต้นยางพารา ก่อนผันตัวมาเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนิสเมื่ออายุ 30 ปี แข่งขันในระดับทีมชาติจนได้ผลงานสูงสุดเป็นเหรียญเงินจากการแข่งขันเทเบิลเทนนิสในเอเชียนพาราเกมส์ที่อินโดนีเซียเมื่อปีที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้เขายังสร้างความมีส่วนร่วมในชุมชนผู้พิการ โดยรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานผู้พิการประจำอำเภอ และดูแลนักกีฬาผู้พิการระดับจังหวัด

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง