
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตเจ้าของวิคตอเรียซีเครท เดินทางไปให้ข้อมูลกับตำรวจ ช่วงค่ำ วันที่ 17 ม.ค.61
ประเด็นคือ – พล.ต.อ.ศรีวราห์ เชิญ ‘ชูวิทย์’ ให้ข้อมูลฐานะพยานอดีตเจ้าของวิคตอเรียซีเครท หลังแฉ ‘ศศิธร’ เป็นแค่นอมินี ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง พร้อมออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 3 คน
วันที่ 18 ม.ค. 2561 ช่วงค่ำวานนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เข้าสอบปากคำ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในฐานะอดีตเจ้าของสถานบริการวิคตอเรียซีเครท ในประเด็นเกี่ยวกับตอนการดำเนินกิจการ, การใช้บริการในสถานบริการ ซึ่งเป็นผลจากนายชูวิทย์ ออกรายการโทรทัศน์และออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ พร้อมระบุว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภาภรณ์ หุ้นส่วนวิคตอเรีย ซีเคร็ท เป็นเพียงนอมินี มีชื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตสถานประกอบการ แต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปให้คณะทำงานวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงและนำไปสู่การสืบสวนเพื่อหาเจ้าของสถานประกอบการตัวจริงต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า นายชูวิทย์ให้การเป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดีเป็นอย่างมาก ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร ซึ่งคำให้การของน.ส.ศศิธรนั้นเป็นไปตามเอกสาร แต่คำให้การของนายชูวิทย์นั้นไม่ใช้ ดังนั้นถ้ามีรายชื่อใครถูกพาดพิงก็จะมีการเชิญตัวมาสอบสวนด้วย

น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เข้ามอบตัว รับทราบข้อกล่าวหา 13 ฐานความผิด เบื้องต้นให้การปฏิเสธ อมรับเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับจริง (16 ม.ค.61)
ส่วนความคืบหน้าของคดีขณะนี้ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว 90 ปาก และในวันนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มอีก 3 ราย เนื่องจากเข้าข่ายมีความผิดใน 11 ข้อกล่าวหา แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการจึงลดไป 2 ข้อหา

ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคกีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คดีค้ามนุษย์สถานบริการวิคตอเรียซีเครทเป็นคดีสำคัญ ต้องมีบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นด้วยเพื่อสืบสวนหาบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้อง หรืออยู่เบื้องหลังเพิ่มเติม หากปรากฎหลังฐานเพียงพอ ก็ต้องออกหมายจับเพิ่มตามกฎหมาย ส่วนผู้เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ได้แยกไปดำเนินการ









