
(ภาพประกอบเท่านั้น)
ศาลอุทธรณ์ สั่งปรับจำเลยคดี “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ปี 2559 เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ส่วนข้อหา “อั้งยี่-ฟอกเงิน” พิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น
วันที่ 15 พ.ย. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีศาลอุทธรณ์ “คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ คงเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด, นางธวัล แจ่มโชคชัย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ, นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กับพวกรวม 13 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว, ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว, ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต และฟอกเงิน
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องในความผิดฐานอั้งยี่และฟอกเงิน เนื่องจากพยานโจทก์ที่เป็นข้าราชการที่มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้เบิกความให้ความเห็นแตกต่างกับพยานโจทก์ในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานอั้งยี่และฟอกเงิน ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ศาลเห็นว่า มีการขายสินค้าราคาสูง เป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เป็นความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยที่ 1, 2 และ 13 คนละ 500,000 บาท
อัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ปี 2559 ระบุพฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 31 ส.ค. ปี 2559 ต่อเนื่องกัน บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด นำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาโดยไม่มีค่าบริการ หรือที่เรียกว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จากนั้นบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ของจำเลย ให้ใช้รถบัสจำนวน 2,500 คัน รับนักท่องเที่ยวฟรี โดยเป็นผู้กำหนดแผนการเดินทางให้มัคคุเทศก์ และผู้ขับขี่นำรถไปจอดให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าจากร้านในเครือเดียวกับบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งสินค้าภายในร้านมีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการขูดรีดนักท่องเที่ยว ไม่เกิดการแข่งขันเสรีทางการค้า ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย
นอกจากนี้ มีข้อมูลการโอนเงินระหว่างบริษัทพวกจำเลยจำนวนมาก มีการอำพรางแบ่งปันผลประโยชน์ โดยบริษัท โอเอ ทราน สปอร์ต จำกัด แบ่งปันผลประโยชน์ให้บริษัททัวร์ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ให้มัคคุเทศก์ 3-5 เปอร์เซ็นต์ มีพฤติกรรมเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ปกปิดวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญชาวจีน รวมมูลค่าความเสียหาย 98 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2560 ต่อมาโจทก์อุทธรณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง









