กีฬาฟุตบอลชายในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ได้เริ่มต้นแข่งขันกันในวันที่ 10 สิงหาคม แม้ว่าจะเป็นรายการที่ไม่ได้อยู่ในการรับรองของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า แต่ทุกทีมที่ส่งเข้าร่วมการแข่งขันต่างก็คาดหวังการทำผลงานที่ดี
โดยเฉพาะเป็นการวัดมาตรฐานนักเตะที่จะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งฟุตบอลเอเชียนเกมส์เป็นเวทีที่แข้งระดับเอเชียหลายคนเคยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว
เริ่มจากนักเตะระดับตำนานของทีมชาติอิหร่านที่ช่วยกันคว้าเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ปี 1998 นำทัพโดย อาลี ดาอี ซูเปอร์สตาร์เอเชียร์ยุคนั้น ยังมีดาวรุ่งจรัสแสงอย่าง เมห์ดี มาดาวิเกีย, อาลี คารีมี และ วาฮิด ฮาชิเมียน ที่ร่วมทีมมาด้วย โดยนักเตะเหล่านี้ได้ออกไปค้าแข้งในยุโรปทั้งหมด
อาลี ดาอี
อีกหนึ่งชาติยักษ์ใหญ่ด้านฟุตบอลของเอเชียคือเกาหลีใต้ เจ้าของเหรียญทอง 4 สมัย ก็เคยมีนักฟุตบอลชื่อดังที่เคยผ่านเอเชียนเกมส์มาแล้วเช่นกัน ตั้งแต่ ฮอง เมียน โบ ตำนานรุ่นเก่าที่เคยเข้าร่วมแข่งขันในปี 1990 และ 1994
ตามมาด้วยชุดปี 2002 ที่ผสมผสานระหว่างชุดฟุตบอลโลกปี 2002 และดาวรุ่งยุคโกลเด้นเจเนเรชั่น ทั้ง ปาร์ค จี ซุง, ลี ชุน ซู และ ลี ดอง กุ๊ก จนกระทั่งปี 2014 ที่ทีมโสมขาวสามารถคว้าเหรียญทองได้ครั้งล่าสุด ที่มีนักเตะที่สามารถพัฒนาตัวเองไปเล่นในลีกยุโรปได้อย่าง คิม จิน ซู
ฮอง เมียน โบ
ขณะที่ทีมชาติญี่ปุ่น แม้ว่าในระยะหลังจะส่งทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี รวมกับนักฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัยมาลงแข่งขัน แต่ก็มีนักเตะชื่อดังที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน เช่นคาซูโยชิ มิอูระ, ชินจิ โอโนะ, ชุนซูเกะ นากามูระ หรือ นาโอฮิโร่ ทากาฮาร่า โดยทีมซามูไรบลูเคยได้เหรียญทองมา 1 ครั้งในปี 2010
ชินจิ โอโนะ
สำหรับทีมชาติไทยเคยคว้าอันดับ 4 มาได้ 4 ครั้งในปี 1990, 1998, 2002 และ 2014 ในเวทีเอเชียนเกมส์ก็ได้สร้างนักเตะชื่อดังมากมายทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูลหรือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ผลงานในปี 2014 ยังคงเป็นครั้งที่ตราตรึงอยู่ในใจแฟนฟุตบอล ซึ่งทำให้นักเตะหลายคนกลายเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, กวิน ธรรมสัจจานันท์, สารัช อยู่เย็น และชาริล ชัปปุยส์
‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้แฟนกีฬาต่างเฝ้าคอยว่า จะมีนักเตะระดับเอเชียคนไหนแจ้งเกิดอีกครั้ง รวมถึงนักเตะไทยที่จะเป็นความหวังของชาติในอนาคตต่อไป
อย่าลืมติดตามรับชม เอเชียนเกมส์ 2018 ระหว่างวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 และช่องทางออนไลน์บนเฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment และยูทูบ WorkpointOfficial
https://www.facebook.com/workpoint/videos/10155652805991332/
