
ประเด็นคือ – โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงหลักการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ต้องเร่งด่วน เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป และไม่ก้าวก่ายตุลาการ ยืนยันหลังจบภารกิจตามโรดแมป จะมีการยกเลิกคำสั่งของคสช.ที่ผ่านมา
หลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.61) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ว่า มีหลักสำคัญ 4 ข้อ ประกอบด้วย
- การจะใช้อำนาจตาม มาตรา 44 เรื่องที่จะใช้ ต้องเข้าข่ายอยู่ในเรื่องสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป (ปฏิรูปประเทศ ระบบงาน โครงสร้างองค์กร ฯลฯ) , การรักษาความมั่นคง, การรักษาความปลอดภัยให้กับสังคมและประชาชน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
- อำนาจตาม มาตรา 44 มีผลทั้งในทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ โดยในนิติบัญญัติ หมายความว่า คำสั่งที่ออกมามีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากับกฎหมายฉบับหนึ่ง ทางบริหารหมายความว่า เป็นการสั่งให้ข้าราชการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ เช่น ที่ผ่านมา มีการปรับโยกย้ายให้มาประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการตรวจสอบในเรื่องต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อน ขณะที่ ในทางตุลาการสามารถใช้ในการตัดสินคดีได้ แต่ยืนยันว่า ที่ผ่านมา คสช. ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย หรือ ยุ่งเกี่ยวในกระบวนการของงานด้านตุลาการเลยแม้แต่กรณีเดียว เพียงแต่เป็นการดำเนินการให้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเดินตามกระบวนการเท่านั้น
- การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 คำนึงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น เป็นเรื่องที่เร่งด่วน หากล่าช้าจะไม่ทันการณ์ทำให้เกิดความเสียหาย และก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย จึงจะนำมาตรา 44 มาใช้
- ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ในกรณีเฉพาะกิจ หรือเฉพาะหน้า โดยเมื่อมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปแล้ว จะมีการออกกฎหมายมารองรับให้สอดรับกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นพระราชกำหนด และพระราชบัญญัติ โดยพิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อให้เรื่องนั้นเกิดการแก้ไขอย่างยั่งยืนและถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ต่อไป
ทั้งนี้ คสช. ยืนยันว่า เมื่อใดที่จบภารกิจตามโรดแมป คาดว่า จะมีการออกคำสั่งในการยกเลิกคำสั่งของ คสช. ที่ผ่านมา

(ภาพประกอบ)
- คสช.เร่งกวดขัน หลังพบสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดราคาถูกลง
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม คสช. ได้รับทราบรายงาน เรื่องการพัฒนาการลักลอบเกี่ยวกับการผลิตยาเสพติดจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะสารตั้งต้นที่นำมาผลิตยาเสพติดมีราคาถูกลง จึงทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดี นำมาผลิตยาเสพติดค่อนข้างมาก เห็นได้จากตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบและตรวจตราให้รัดกุมเข้มงวดมากขึ้น โดยจะตั้งด่านตรวจในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในถนนเส้นทางหลักและเส้นรอง โดยทุกด่านจะมีตำรวจและทหารชั้นสัญญาบัตร ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ควบคุมกำกับในทุกด่าน ยืนยันว่า จะไม่มีข้าราชการที่ต่ำกว่าระดับสัญญาบัตรดูแลควบคุมด่านที่เปิดขึ้นโดยเด็ดขาด จึงขอให้ประชาชนเกิดความสบายใจว่า ทุกด่านกระทำโดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ตามที่รัฐบาลได้เคยชี้แจงไว้
ที่มา Thaigov









