อดีตแกนนำไทยรักษาชาติ ปราศรัยอย่าเลือกเผด็จการ

อดีตแกนนำไทยรักษาชาติ ปราศรัยอย่าเลือกเผด็จการ

อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบพรรค รวมตัวเดินสายเปิดเวทีปราศรัยโจมตี คสช. พร้อมแนะประชาชนลงคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตย “จาตุรนต์” มั่นใจ ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย ชี้เป็นสิทธิ์ในฐานะประชาชน

วันที่ 13 มี.ค. อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เปิดเวทีปราศรัย ‘ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย’ ครั้งแรกที่ลานข้างที่ทำการป่าไม้ตลาด อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านประชาชนเดือดร้อนจากการบริหารโดยรัฐบาล คสช. และหากให้บริหารต่อ คสช. ก็จะบริหารต่อไปอีก 20 ปี แถมกติกาในรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นธรรม ชาวร้อยเอ็ดทั้งจังหวัดเลือก ส.ส. ได้ 7 คน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวเลือก ส.ว. ได้ถึง 250 คนและมีสิทธิ์มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการไม่ไปลงคะแนนบ้าง แบ่งคะแนนไปให้คนโน้นคนนี้บ้างก็จะไม่ชนะการเลือกตั้ง ต้องลงคะแนนเสียงกันอย่างล่มทลายเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา แม้จะมีการวางกติกาเพื่อป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองสายไทยรักไทยชนะการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายพรรคพลังประชาชนก็ได้บริหารประเทศ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์อีกครั้ง ว่าชาวร้อยเอ็ดไม่เอาเผด็จการหวังสืบทอดอำนาจ เงินซื้อไม่ได้ และจะเลือกฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยากจะมาบอกให้ประชาชนฟังถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่ใช่แค่การเลือกผู้แทนเขตหรือพรรครัฐบาล แต่เป็นการเลือกอนาคตของประเทศ ถ้าเลือกการสืบทอดอำนาจก็จะยาวไปอีก 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ

ที่ผ่านมาถ้าประชาชนอยู่ดีกินดีค้าขายคล่อง เวทีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมี แต่ 5 ปีที่ผ่านมาพืชผลการเกษตรราคาตกทุกตัว การเลือกตั้งคราวนี้คือการทำให้ประเทศไปสู่หลักการที่ถูกต้อง มีรัฐบาลที่ฟังเสียงจากประชาชนมาแก้ปัญหาให้ประชาชน

เลือกตั้งครั้งนี้ตนจะไม่กาคะแนนให้เผด็จการแต่จะเลือกฝั่งประชาธิปไตย รัฐบาลชุดนี้พอใกล้เลือกตั้งก็ประกาศจะแก้ปัญหาโน่นนี่ แต่ตนตั้งคำถามว่าแล้วที่มา 4-5 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่แก้ปัญหา และการสร้างรากฐานประชาธิปไตยก็ไม่ได้สร้างมาจากรอยล้อรถถัง ที่ผ่านมานักการเมืองหลายคนร่วมฝ่าฟันมาพร้อมกันกับตน แต่ก็ย้ายไปอยู่กับฝ่ายเผด็จการ แต่หลายคนก็ยังยืนยันที่จะสู้ด้วยกันต่อไป และถือเป็นการวัดใจนักการเมืองและวัดใจประชาชน ถ้าหากการเลือกตั้งครั้งนี้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ส.ว. ก็จะต้องฟังเสียงของประชาชน นายณัฐวุฒิ กล่าว

จากนั้น นายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า กรณีที่มีข่าวว่า กกต. ตั้งกรรมการไต่สวนแกนนำและอดีตสมาชิก ทษช. รณรงค์เทคะแนนให้พรรคการเมืองอื่นว่า ไม่เห็นประเด็นว่าจะมาสอบเรื่องอะไรเพราะยังไม่มีอะไรที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนทุกอย่าง

กรณีที่ผู้สมัครจะเทคะแนนหรือโหวตโน ตนก็ไม่เห็นประเด็นที่จะผิดกฎหมาย เพราะการเสนอให้โหวตโนเป็นข้อเสนอมาจากประชาชน อดีตผู้สมัครคงจะไม่ไปรณรงค์อะไรได้ ส่วนการเทคะแนนก็ไม่มีคำนิยามตามกฎหมายแปลว่าอะไร คนๆ หนึ่งจะเทคะแนนเลือกตั้งก็คือเทคะแนนตัวเอง หนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงเท่ากัน ส่วนคะแนนของคนอื่นๆ มันเทไม่ได้ ไม่มีอยู่ในสารบบของภาษากฎหมาย และไม่เห็นว่าจะผิดกฎหมายอะไร

ส่วนการที่อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งจะไปบอกประชาชนว่าอย่าเลือกหรือเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ คนนั้นคนนี้ ก็เหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ ทั่วไปที่นั่งคุยกันตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ เดินไปเดินมาคุยกันเขาก็พูดกันได้ ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
อดีตแกนนำไทยรักษาชาติ ปราศรัยอย่าเลือกเผด็จการ