“อนาคตใหม่” ถอดรหัสชนะเลือกตั้งเพราะเข้าถึง-ลุยทุกพื้นที่

“อนาคตใหม่” ถอดรหัสชนะเลือกตั้งเพราะเข้าถึง-ลุยทุกพื้นที่

 


ว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่ สรุปประสบการณ์การชนะใจประชาชน ไม่ต้องแจกเหล้าไม่ต้องเข้าไปกวนในงานแต่ง-งานศพ ใช้การเดินเขาถึงทุกพื้นที่ เสนออุดมการณ์ในการเปลี่ยนแปลงสังคม

วันที่ 31 มี.ค. พรรคอนาคตใหม่จัดสัมมนาอบรมว่าที่ ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ โดยจัดให้มีการถ่ายทอดประสบการณ์ของว่าที่ ส.ส. ส่วนหนึ่งที่ชนะการเลือกตั้งใน 4 เขต

น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ว่าที่ ส.ส.เขต 3 จ.จันทบุรี เล่าว่า ใช้จิตวิญญาณในการทำงาน เริ่มต้นจากการมองเห็นความอึดอัดของคนในสังคม และความอยากเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น ทีแรกไม่มีความอยากเป็น ส.ส.เลย เพียงแค่คิดว่าอยากเก็บคะแนนให้พรรค แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ตนได้บังเอิญเจอผู้ติดตามข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งในจังหวัด มาท้าทายอุดมการณ์ของพรรคเรื่องคนไทยเท่าเทียมกันว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วยังมาวางท่าใหญ่โตใส่ ตนจึงเกิดแรงฮึดที่อยากจะเป็น ส.ส.ขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าคนเท่าเทียมกันเป็นจริงได้

สำหรับการหาเสียงตนเริ่มต้นจากการไม่มีอะไรเลย ฐานเสียงไม่มี ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่รู้จัก ไม่คิดถึงคำว่าแพ้หรือชนะ คิดเพียงจะทำอย่างไรใหัพรรคได้คะแนนมากที่สุด อยากทำการเมืองแบบใหม่ ทีมงานเราอายุไม่เกิน 30 หมด มีความเชื่อใกล้เคียงตรงกันในเรื่องการทำการเมืองแบบใหม่ก็ไปด้วยกันได้

เชื่อว่าเดินเยอะกว่าทุกคนที่ลงแข่งในเขตเดียวกัน ใช้เงินน้อยที่สุด ไม่เคยเสียเหล้าแม้แต่ขวดเดียว และไปงานศพกับงานแต่งน้อยมาก เพราะไม่อยากไปหาประโยชน์จากงานของเขา และด้วยงบที่จำกัด ไม่มีเงินไปจ้างรถแห่หาเสียง จึงเน้นใช้วิธีการเดินเอา เริ่มแรกเหนื่อยและท้อใจมาก ต้องเดินเป็นระยะไกลๆ หลายกิโล ช่วงนั้นอากาศก็ร้อน เดินไปน้ำตาคลอเบ้าไป ถึงกับตั้งคำถามว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ แต่อารมณ์ตรงนั้นมันน้อยกว่าความรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงประเทศนี้มาก อย่างที่บอกไม่ได้คิดถึงว่าจะแพ้หรือชนะ เราคิดอย่างเดียวว่าเราจะทำเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ อีกอย่าง ความจริงใจสำคัญมาก เราเชื่อในเรื่องของคนเท่ากัน และเราทำแบบนั้นจริงๆ เราทำตัวน่ารัก อ่อนน้อมให้ทุกคนเสมอ แม้จะได้เป็นว่าที่ ส.ส.แล้ว แต่เรายังรู้สึกว่าตัวเราเท่าเดิม ไม่ได้ตัวใหญ่โตอะไรขึ้น เราทำตัวน่ารักเหมือนเดิม” น.ส.ญาณธิชากล่าว

ด้านนายสัตวแพทย์ปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ปกติใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่รู้จักใครที่บ้านเกิด แต่ด้วยความอยากเป็นผู้แทนของคนพิษณุโลกในการผลักดันการกระจายอำนาจกลับสู่บ้านเกิด และความต้องการท้าทายการเมืองแบบเก่า ตนจึงตัดสินใจลงสมัครเป็น ส.ส.ในครั้งนี้

หลังจากลงสมัครแรกๆ ตนมีความหวั่นใจอยู่เล็กน้อย เพราะคู่แข่งล้วนแต่เป็นคนใหญ่โตมีชื่อเสียง แต่เมื่อตนกลับมาคิดทบทวนดีๆ ถึงจุดแข็ง-จุดอ่อนของตนกับคู่แข่ง จึงเห็นว่ายังมีหนทางที่จะชนะได้อยู่ ส่วนการแข่งขันเป็นเหมือนกระต่ายกับเต่า เพราะในขณะที่คู่แข่งออกตัวเร็วและแรงมาก ตนจะเน้นใช้ความมุ่งมั่นอดทน ทำกิจวัตรการหาเสียงประจำวันไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง โดยเน้นใช้การตลาดนำการรณรงค์ ใช้โซเชียลมีเดียถ่ายทอดเรื่องราวของคนธรรมดา ใช้ทีมงานที่ small, smart และ strong รวมทั้งการใช้เงินอย่างจำกัด คุ้มค่า และไม่ใช้การซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด

“ส่วนสำคัญคือการเน้นการรณรงค์ว่าหนึ่งเสียงของทุกคนเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ เราชูเรื่องราวของคนธรรมดา ของคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักการเมืองหรือผู้ยิ่งใหญ่ ว่าพวกเขาเหล่านี้ต่างหากคือพลังที่เปลี่ยนแปลงสังคมได้” นายสัตวแพทย์ปดิพัทธ์กล่าว

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์

ส่วนอีก 2 พื้นที่ คือ นายพีรเดช คำสมุทร ว่าที่ ส.ส.เขต 6 จ.เชียงราย และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ ส.ส.เขต 25 กรุงเทพมหานคร สรุปตรงกันคือ การใช้การเดินเท้า เข้าถึงพื้นที่โดยที่เชียงราย กำหนดเดินเฉลี่ยวันละ 10 กิโลเมตรเพื่อให้ครบทุกหมู่บ้านในเขต 6 จำนวน 186 หมู่บ้าน เพราะอยากให้ทุกคนมองเห็นและพุดคุยกับเราได้ ส่วนพื้นที่เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ แม้จะเป็นคนนอกพื้นที่ ก็ใช้วางแผนตารางงานอย่างเข้มข้น แบ่งกันลงเดินให้ครบทุกพื้นที่ นำเสนอสิ่งใหม่ๆ และชี้ปัญหาของสิ่งที่เป็นมาให้ทุกคนเห็น

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง