ศาลสั่งคุ้มครอง ห้ามนายกฯ ใช้ข้อกำหนดคุมเสนอข่าว ชี้ขัดรธน.-ไม่มีกม.ให้อำนาจตัดเน็ต

ศาลสั่งคุ้มครอง ห้ามนายกฯ ใช้ข้อกำหนดคุมเสนอข่าว ชี้ขัดรธน.-ไม่มีกม.ให้อำนาจตัดเน็ต

ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้นายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนด ห้ามการเสนอข่าวที่สร้างความหวาดกลัว ชี้ขัดรัฐธรรมนูญและไม่มีกฎหมายให้อำนาจตัดอินเตอร์เน็ต

วันที่ 6 ส.ค. 2564 “ศาลแพ่งได้มีคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนคดีมีคำพิพากษา” ในคดีที่บริษัท รีพอร์ตเตอร์ โปรดักชั่น จำกัด กับพวกรวม 12 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

คำสั่งสรุปใจความได้ว่า ข้อกำหนดฯ ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ไม่ได้จำกัดเฉพาะข้อความอันเป็นเท็จดังเหตุผลและความจำเป็น ตามที่ระบุไว้ในการออกข้อกำหนดดังกล่าว ย่อมเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโจทก์ทั้ง 12 คน และประชาชนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2564 บัญญัติคุ้มครองไว้

ทั้งยังไม่ต้องด้วยข้อกำหนดฯ ที่ระบุว่า จำเป็นต้องมีมาตรการที่กำหนดให้การใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถูกต้องตามช้อเท็จจริงตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวตามข้อกำหนดข้อดังกล่าวนั้น มีลักษณะไม่แน่ชัดและขอบเขตกว้าง ทำให้โจทก์ ประชาชนและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนไม่มั่นใจในการแสดงความคิดเห็นและสื่อสารตามเสริภาพที่รัฐธรรมนูญฯ มาตรา 34 วรรคหนึ่ง และมาตรา 35 วรรคหนึ่ง บัญญัติคุ้มครองไว้

นอกจากนี้ยังเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุดคลเกินสมควรแก่เหตุ ไม่ต้องด้วยมาตรา 26 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญฯ ทั้งข้อกำหนดตังกล่าวก็ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ หรือแนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อมีให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์ หรือประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ตามความในมาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ส่วนข้อกำหนดฯ ข้อ 2 ที่ให้อำนาจระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ ไอพี (IP address) ที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารในอินเทอร์เน็ตที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ ไม่ปรากฏว่า มาตรา 2 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้อำนาจนายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนดให้ดำเนินการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ต จึงเป็นข้อกำหนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) และรัฐสั่งปิดพื้นที่ หรือล๊อกดาวนัจำกัดการเดินทางหรือการพบปะระหว่างบุคคล ทั้งข้อกำหนดข้อดังกล่าวมิได้จำกัดเฉพาะการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับ การกระทำครั้งที่เป็นเหตุแห่งการระงับให้บริการอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตในอนาคตด้วย ปิดกั้นการสื่อสารของบุคคล และเป็นการปิดกั้นสุจริตชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่ข้อความ หรือข่าวสารดังกล่าว ไม่ต้องด้วยมาตรา 36 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญฯ การให้ข้อกำหนดทั้งสองข้อดังกล่าวมีผลบังคับใช้ต่อไป อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังได้”

จึงมีคำสั่งห้ามจำเลยดำเนินการบังคับใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 29) เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง