
เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เตรียมข้อเสนอหารือ รมต.สำนักนายกฯ 6 พ.ค.นี้ ย้ำจุดยืนขอคืนพื้นที่ป่า – รื้อบ้านพักตุลาการ เปิดทางฟื้นฟู เชื่อมีกฎหมายเปิดทางให้รื้อถอนได้โดยไม่ผิด
วันที่ 3 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าก่อนที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมหารือร่วมกับเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เพื่อหาทางออกกรณีบ้านพักข้าราชการตุลาการ ที่สร้างอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคมนี้
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยถึงข้อเรียกร้องที่เครือข่ายฯ เตรียมเสนอต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เครือข่ายฯ ยังยืนยันแนวทางเดิม คือ ขอคืนพื้นที่ป่า ไม่รุกป่าในพื้นที่ข้างเคียงเพิ่ม โดยให้ประกาศแนวเขตอุทยานครอบพื้นที่ป่า ที่เป็นพื้นที่ราชพัสดุทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรุกพื้นที่ป่าในบริเวณดังกล่าว
ขณะที่การขอคืนพื้นที่ป่า มีแนวทางเดียวคือ ต้องรื้อบ้านพักตุลาการทั้ง 45 หลัง และอาคารชุดอีก 9 หลังออก เพื่อเปิดทางให้มีการเข้าไปฟื้นฟูป่า ยืนยันว่าไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด
ถ้าศาลยอมรื้อบ้านพัก การเคลื่อนไหวก็จบลง
สำหรับเหตุผลที่ต้องรื้อ เนื่องจากดูแล้วไม่เหมาะสม หากปล่อยให้มีคนเข้าไปอยู่ จะมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำเสียที่จะถูกปล่อยออกมา ปัญหาหน้าดินพังทลายจากการเปิดหน้าดิน และปัญหาไฟป่า ซึ่งจะมีปัญหาตามมาไม่สิ้นสุด และต้องนำงบเข้าไปดูแลเพิ่มเติม
ฉะนั้น ต้องยอมสูญเสียงบประมาณ 500 – 600 ล้านบาท เพื่อเอาป่าคืน ขณะที่การรื้อก็รื้อวัสดุบางส่วน เช่น หลังคา หน้าต่าง อุปกรณ์ออกมา คงเหลือแต่โครงสร้างที่ต้องทุบทิ้ง

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
นายธีระศักดิ์ กล่าวย้ำว่า เราไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด เราต้องการขอคืนพื้นที่ป่า ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับศาล เพราะป่าดอยสุเทพถือเป็นจิตวิญญาณ และศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ การถางป่าเพื่อสร้างบ้านพักเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แม้กระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็มีพระราชดำรัสเสมอว่า ให้ปลูกป่า รักษ์ป่า แต่นี่กลับมาโค่นป่าเป็นร้อยไร่ แล้วเราจะไปสอนลูกหลานเราได้อย่างไร
“ไม่ควรอ้างว่าสูญเสียงบประมาณสร้างไปแล้ว ก็ควรปล่อยให้อยู่กันต่อไป หากมีการรุกป่าเพิ่มเติมอีก โดยบอกว่าสร้างบ้านไปแล้ว ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และหน่วยงานที่เข้าไปรุกป่า ก็เป็นสถาบันที่สังคมให้ความเคารพ ชาวเชียงใหม่จึงขอให้ศาลยอมลงมา ยอมรื้อบ้านพัก”
ส่วนแนวทางการรื้อ ไม่จำเป็นต้องรื้อวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่มาทำข้อตกลงกันว่าจะรื้อเมื่อใด วางแนวทางอย่างไร เบื้องต้นต้องกันพื้นที่ดังกล่าว ห้ามคนเข้าไปอยู่ ขณะที่ผู้รับเหมาก็เข้าไปดำเนินการจนแล้วเสร็จ และส่งมอบงานในงวดสุดท้าย เพื่อไม่ให้มีปัญหาฟ้องร้องตามมา
สำหรับการรื้อ เชื่อว่ามีข้อกฎหมายที่เปิดทางให้สามารถรื้อได้ หากรื้อไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลชุดหน้าก็ต้องรื้อ จึงขอฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า หากอยากได้ใจคนเชียงใหม่ มีนักกฎหมายอยู่ใกล้ตัวนายกฯ หลายคน เชื่อว่าน่าจะหาแนวทางรื้อได้ แต่หากยังปล่อยให้ยืดเยื้อ จะเป็นบาดแผล และทำให้มีปัญหาทะเลาะกันไม่จบสิ้น









