
วันที่ 8 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการปร
ล่าสุดคณะพนักงานสืบสวนสอบส
1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่
2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขั
3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขั
4.ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักง
5.ร่วมกันเป็นซ่องโจร
6.ร่วมกันพยายามข่มขืนใจ
7.ร่วมกันซ่อนเร้นหรือย้ายท
8.ร่วมกันอำพรางศพ
9.ร่วมกันแสดงตนและกระทำการ
ส่วนข้อหาที่ 10 แจ้งแก่ พ.ต.ท.บรรยิน คือ ความผิดฐานสวมเครื่องแบบ และแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไ

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวอีกว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.บรรยินให้การปฏิเสธตล
ส่วนอีก 4 ราย ให้การภาคเสธ ปฏิเสธในข้อหาร่วมกันฆ่า ขณะที่บุคคลอื่นที่ใกล้ชิดก
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพ
สำหรับ พ.ต.ท.บรรยินมีคดีที่เกี่ยว
1.คดีการปลอมแปลงเอกสารสิทธ
2.คดีฆาตกรรมอำพราง นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ก่อนนี้ทางพนักงานสอบสวนมีค
3.คดีร่วมกันฟอกเงินหุ้นจำน
4.คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพาก
ทั้งนี้ คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาเกิดขึ้นเมื่อเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งทางตำรวจกองปราบได้รับแจ้งจาก น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ว่า พี่ชาย คือ นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ ซึ่งปกติจะขับรถมารับที่ศาลหายตัวไป ทางกองปราบจึงได้ระดมกำลังนักสืบลงพื้นที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ จนนำไปสู่การตรวจค้นครั้งใหญ่พร้อมกันทั้ง 21 จุดทั้งในพื้นที่กรุงเทพและ จ.นครสวรรค์และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจำนวน 6 คนพร้อมของกลางจำนวนมาก









