
(แฟ้มภาพ)
ประเด็นคือ – ประธาน ป.ป.ช. เผย กำลังรวบรวมหลักฐาน ยื่นศาลนักการเมืองขอรื้อคดี “ทักษิณ” ให้เอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้รัฐบาลเมียนมา เอื้อชินคอร์ป เร็วๆนี้
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยความคืบหน้าหลังป.ป.ช.มีมติฟื้น 3 คดี ที่มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง คือ คดีธนาคารเพื่อการส่งออก และ นำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ในรัฐบาลเมียนมาวงเงิน 4 พันล้านบาท , คดีหวยบนดิน และ คดีรถดับเพลิง -–รือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ว่า

(แฟ้มภาพ)
ในคดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย แต่หลบหนีไป และศาลจำหน่ายคดีชั่วคราว ขณะนี้ สำนักคดีกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนยื่นคำร่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้พิจารณาคดีใหม่ คาดว่า คดีนี้จะใช้เวลาไม่นาน เพราะเป็นคดีที่ป.ป.ช.เคยยื่นฟ้องไปแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
ส่วนคดีทุจริตเงินทอนวัด พล.ต.อ.วัชรพล ระบุว่า ภายใน 2 – 3 เดือน จะสามารถส่งฟ้องผู้ทุจริต กลุ่มใหญ่ เนื่องจากคดีมีความคล้ายคลึงกัน มั่นใจว่า จะเคลียร์คดีนี้ได้สำเร็จ เช่น เดียวกับ คดีสินบนข้ามชาติ ที่มีความชัดเจนในตัวผู้กระทำความผิดมากขึ้น
คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเมียนมา เป็นคดีที่กล่าวหาว่า นายทักษิณ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้ เอ็กซิมแบงก์ อนุมัติปล่อยกู้กับรัฐบาลเมียนมา วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของเมียนมา เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป
ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ในขณะนั้น เข้ามาตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของนายทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เอ็กซิมแบงก์ให้เงินกู้แก่รัฐบาลเมียนมา จำนวน 4,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าราคาต้นทุนของเอ็กซิมแบงก์ โดยรัฐบาลไทยต้องตั้งงบประมาณชดเชย ผลขาดทุนให้แก่เอ็กซิมแบงก์ในระยะเวลา 12 ปี เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 670,436,201.25 บาท ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้ไว้ เมื่อ 30 กรกฎาคม ปี 2551









