
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ (แฟ้มภาพ)
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงดำแหน่งทางการเมือง ฟังคำพิพากษาคดีออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกหมายจับในคดีก่อการร้าย และคดีอื่นๆ
วันที่ 19 มิ.ย. 2561 ศาลนัดตัดสินคดีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล หรือเฮียปึ้ง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย ฐานผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีการออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบ
คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติต้นเดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทางให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ, ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4)

อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มี.ค. 2560 ซึ่งทนายของนายสุรพงษ์ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาท ขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี ศาลอนุญาตให้ประกันตัวพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมาย เปิดเผยว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อมาประกันตัวเพิ่มเติมในวงเงินเพิ่มอีก 10 ล้านบาทประกอบด้วยเงินในบัญชีและโฉนดที่ดินเพื่อต่อสู้คดี เชื่อว่าคำให้การมีน้ำหนักเพียงพอที่องค์คณะศาลจะใช้เป็นข้อมูลที่ดุลยพินิจ วินิจฉัยอย่างเที่ยงธรรม หากในกระบวนการศาลวินิจฉัยไปในทางลบ ก็เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีตามกฎหมายใหม่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษายืนเพิกถอนพาสปอร์ตนายทักษิณ ตามคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1412/2559 ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความ ยื่นฟ้อง อธิบดีกรมการกงสุล และ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องออกคำสั่งโดยมิชอบ กรณีที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสอง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 พ.ค.58 ยกเลิกหนังสือเดินทาง 2 ฉบับ คือ หนังสือเดินทางเลขที่ U 957411 และเลขที่ Z 530117 ทำให้การเพิกถอนพาสปอร์ตของนายทักษิณ จึงมีผลเด็ดขาดนับตั้งแต่ 2558 โดยถูกต้องตามกฎหมาย










