พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงทุนโดยเงินกู้ ปี 2559–2564 ระหว่างการอภิปรายงบประมาณปี 2565 ว่าเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลมีการลงทุนเพื่ออนาคตมากที่สุด
โดยระบุว่า เงินกู้กว่า 70% เป็นการกู้เพื่อการลงทุน วงเงิน 1.5 ล้านบาท เพื่อสร้างความเจริญให้กับประเทศ ส่งเสริมการจ้างงาน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมกับหยิบยกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดการบริหาร 7 ปี ว่ามีทั้งโครงการสร้างรถไฟ ถนนหลายเส้น เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึง รวมทั้งระบบประปา ไฟฟ้า พลังงาน ที่ต้องกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคต่างๆ
“ด้านคมนาคมโครงการรถไฟฟ้าสีต่างๆ ทั้ง กทม. และปริมณฑล ไม่ว่าจะเป็นรถไฟสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ, สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางซื่อ, สายสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ,สายสีแดง รังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน, โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ, การปรับปรุงทางรถไฟทั่วประเทศ, สถานีรถไฟสถานีกลางบางซื่อ, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนามบิน, รถเมล์ NGV เป็นต้น รัฐบาลดำเนินการตามงบประมาณที่มีอยู่ เรื่องของการเดินทางได้ให้นโยบายกระทรวงคมนาคมไปแล้ว ให้วางแผนในเรื่องของการขยาย และซ่อมแซมเส้นทางเก่าที่มีความจำเป็น และได้มีนโยบายใหม่ให้สร้างถนนสายใหม่ที่ไม่ผ่านแหล่งชุมชน เพราะต้องการจะสร้างพื้นที่เศรษฐกิจให้มากขึ้น ถนนไปตรงไหนจะมีความเจริญตรงนั้นครับ และให้มีซอยเข้าไป ไม่ใช่ว่าเวนคืนแล้วคนยังอยู่ติดถนนอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมระบุถึงการดำเนินโครงการสายไฟฟ้าลงดิน ปรับปรุงขายเขตระบบประปา การแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง ซึ่งตอนนี้มีโครงการเติมน้ำในเขื่อนที่กำลังศึกษาและต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเหตุผลเพิ่มเติมที่ทำให้โครงการเกิดความล่าช้า โดยยกกรณีการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ติดปัญหาการเวนคืน แต่ก็ไม่โทษประชาชน

“ผมไม่โทษประชาชน แต่ไม่รู้จะโทษใครเหมือนกัน ที่ปล่อยปละละเลยจะทำรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องเสียเวลาเจรจาให้ออกจากพื้นที่ เพราะเขายากจนไง ก็ปล่อยกันมานาน พอผมทำมันก็คือปัญหานั่นแหละ มันช้าก็ต้องช้า เพราะนั่นคือประชาชน แต่เขาก็ต้องร่วมมือ ไม่งั้นมันเกิดขึ้นไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ ค่าเวนคืนค่าอะไรต่างๆ ไปเรื่อย ผมโทษเขาไม่ได้ ก็ต้องแก้กัน”










