
‘เทควันโดพุมเซ่’ คว้าเหรียญทองแรกให้ชาติไทยในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 จากกีฬาเทควันโดพุมเซ่(ทีมหญิง) ด้วยการเอาชนะเกาหลีใต้ 8.210 ต่อ 8.200 คะแนน
การแข่งขันเทควันโดประเภทท่ารำพุมเซ่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยและทั่วโลก โดยการแข่งท่าร่ายรำพุมเซ่ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ทีมชาย (3 คน ทีมหญิง (3 คน) และคู่ผสม (ชายและหญิง)
นักกีฬาสามารถใช้เวลาในการวาดลวดลายท่ารำละ 1-2 นาที เมื่อเสร็จสิ้นท่ารำที่ 1 ก็จะให้นักกีฬาได้หยุดพัก เพื่อรอดูผลคะแนน ที่ทำได้ในท่ารำแรก ประมาณ 2 นาที ก่อนที่จะเริ่มแข่งท่ารำที่ 2 ทีมไหนผิดน้อยที่สุดชนะ เรียกได้ว่า กีฬาประเภาพนี้วัดกันที่ความผิดพลาด

ส่วนการตัดสินจะมีการหยิบยกตำราท่ารำมาจาก 3 สถาบันหลักเทควันโดโลกคือ สำนักคุคคิวอนของเกาหลี ซึ่งเป็นต้นตำรับกีฬาเทควันโดขนานแท้, สหพันธ์เทควันโดโลก และสหพันธ์เทควันโดนานาชาติ โดยมีกรรมการให้คะแนน ตั้งแต่ 5 – 7 คน การให้คะแนนกรรมการจะค่อยๆ ตัดคะแนนจากความผิดพลาดของนักกีฬา จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมาเฉลี่ย เป็นคะแนนสุทธิของบุคคลหรือของทีมที่เข้าแข่งขัน
หลักการให้คะแนนพุมเซ่ทั่วไปแต่ละท่าจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน แบ่งเป็นส่วนที่1 ความถูกต้อง (Accuracy) 4 คะแนน คือ การใช้ท่วงท่าที่ต้องมีความสมบูรณ์ถูกต้องในรายละเอียด การเคลื่อนไหวท่าพื้นฐาน และความสมดุลของร่างกาย และส่วนที่ 2 การแสดงออก (Presentation) 6 คะแนน คือ ความรวดเร็ว และพลังของท่า การผสมผสานความเร็ว ความแข็งแรงและจังหวะของท่ารํา การแสดงออกของความเชื่อมั่น และรูปลักษณ์ภายนอกทั้งหมด

สำหรับ ‘เทควันโดพุมเซ่’ ที่คว้าเหรีญญทองแรกให้ชาติไทย ประกอบด้วย น.ส.เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล, น.ส.อรนวีย์ ศรีสหกิจ และน.ส.กชวรรณ ชมชื่น
https://www.facebook.com/workpoint/videos/764120130679573/
อ้างอิงข้อมูลจาก กฎกติกาการแข่งขันพุมเซ่ สหพันธ์เทควันโดโลก









