ประชาชนร่วมลงทะเบียนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้วันแรก 2 แสนกว่าราย จาก 4 ล้านสิทธิ ด้านโฆษกกระทรวงการคลังเชิญชวนประชาชนคนไทยเข้าร่วมโครงการ
วันที่ 21 มิ.ย. 2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการลงทะเบียนรับสิทธิ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 18.00 น. จำนวน 238,771 ราย จากจำนวนสิทธิที่เปิดให้ลงทะเบียนทั้งหมด 4 ล้านสิทธิ ซึ่งยังเหลืออีก 3 ล้านกว่าสิทธิ
โดยโครงการนี้เปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. จนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www. ยิ่งใช้ยิ่งได้ .com หรือผ่านจี-วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทั้งนี้ประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชนลงทะเบียน 1 เบอร์โทรศัพท์ต่อ 1 เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
ในกรณีที่ผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ต้องการรับสิทธิตามโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้แทน จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิผ่านจี-วอลเลต บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ภายในวันที่ 28 มิ.ย. 2564 เวลา 22.00 น. และจะถือว่าสละสิทธิจากโครงการเดิม และสามารถเปลี่ยนโครงการได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รัฐบาลจะสนับสนุนเป็นบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาเชอร์) เมื่อประชาชนใช้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ (ไม่รวมสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ บัตรกำนัล (Gift voucher) บัตรเงินสด (Gift card) และสินค้าหรือบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า) ผ่าน จี-วอลเล็ตบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2564 เวลา 06.00-23.00 น. สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ www. ยิ่งใช้ยิ่งได้ .com
โดยวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ อี-เวาเชอร์ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ซึ่งยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ อี-เวาเชอร์สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
โดยยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ อี-เวาเชอร์ 10% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับ อี-เวาเชอร์ 15% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ อี-เวาเชอร์จะคืนเป็นวงเงินเข้าในจี-วอลเล็ต ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป สามารถใช้จ่ายด้วยอี-เวาเชอร์ที่ร้านที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.-31 ธ.ค. 2564 โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
อย่างไรก็ตามโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรการช้อปดีมีคืนที่ให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ที่ได้ดำเนินการไปเมื่อช่วงปลายปี 2563 ดังนั้น ประชาชนที่เคยเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืนจะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
