
วันที่ 6 เม.ย. ของทุกปีจะเป็นวันทำบุญพรรคของ 2 พรรคการเมืองที่จัดตรงกันทุกปี คือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย โดยหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ทั้ง 2 พรรคถูกจับตามองเป็นพิเศษในฐานะพรรคตัวแปรสำคัญที่มีเสียงประมาณ 50 กว่าเสียงทั้งคู่ หากเลือกร่วมงานกับขั้วการเมืองใด จะทำให้ขั้วนั้นมีโอกาสรวมเสียงได้เกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร หรือ 250 เสียง

พรรคประชาธิปัตย์
ก่อตั้งเมื่อ 5 เมษายน 2548 แต่ถือเอาวันที่ 6 เมษายน เป็นวันก่อตั้งพรรค หลังการเลือกตั้ง 22 มี.ค.62 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบผลการเลือกตั้งที่ได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค
กำหนดการจัดงานทำบุญครบรอบ 73 ปี การก่อตั้งพรรค ณ สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ 07.30 น. โดยจะมีพิธีทางศาสนาพุทธและอิสลาม และพิธีพราหมณ์ บวงสรวงสักการะองคค์พระแม่ธรณบีบมวยผม องค์สัญลักษณ์ของพรรค

ปีที่แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวไว้ว่า ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ สังคมไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อมั่นในการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นผู้นำทำให้คนกลับมาศรัทธาประชาธิปไตย
แต่ที่ฮือฮา คือ การที่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค กล่าวตอบโต้ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พูดถึงนักการเมืองเลวว่า ทหารเลวก็มีเหมือนกัน
“การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่านักการเมืองเลว ไม่ดี ตนก็ยอมรับว่ามีนักการเมืองเช่นนั้น แต่ทหารเลวก็มีเหมือนกัน และบอกกลับไปว่าท่านอย่าเหมารวม ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่ได้เหมา แต่เวลาท่านพูดก็ไม่เคยยกเว้น และยอมรับว่านักการเมืองที่ดีก็มี จึงเป็นที่มาการพูดของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เปลี่ยนไปแล้วว่านักการเมืองก็มีดีเหมือนกัน ดังนั้นอย่าไปเหมารวม และพวกเราก็ต้องอย่าให้ใครมาดูถูกเพราะทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี”

พรรคภูมิใจไทย
ก่อตั้งเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2551 แต่ยึดวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันทำบุญครบรอบวันเกิดพรรค หัวหน้าพรรค คนปัจจุบัน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
กำหนดการจัดงานครบรอบ 10 ปี “ก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 พรรคภูมิใจไทย” ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ 07.00 น. โดยอาราธนา สมเด็จพระวันรัต พร้อมด้วยคณะสงฆ์ จากวัดบวรนิเวศวิหาร ประกอบพิธี และมีพิธีทางศาสนาอิสลาม

ปีที่แล้วพรรคเลื่อนการจัดงานเป็นวันที่ 1 เมษายน เพื่อให้สมาชิกพรรคได้มายืนยันความเป็นสมาชิก ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 โดยในตอนนั้น นายอนุทิน กล่าวถึงจุดยืนว่า จะร่วมมือกับพรรคที่สร้างความรักความสามัคคี จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคที่สร้างความแตกแยกและมีนโยบายก่อให้เกิดความขัดแย้ง หนึ่งในประโยคสำคัญ จากนายอนุทิน คือ “ทราบอย่างดีว่าประชาชนต้องการสิ่งใด และภูมิใจไทยจะมอบสิ่งนั้นให้กับประชาชน เมื่อเวลาแห่งการเลือกตั้งมาถึง”
ปีนี้ในสถานการณ์ที่ 2 พรรคจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางการเมืองไทยในการก้าวต่อไป ต้องติดตามว่า ใครบ้างจะไปปรากฏตัวในงานของพรรคใด และหัวหน้าพรรคหรือคนสำคัญของพรรคจะกล่าวถึงก้าวต่อไปว่าอย่างไร









