เช้านี้กรุงเทพฯ อ่วม ค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ระดับสีส้ม กว่า 50 พื้นที่

เช้านี้กรุงเทพฯ อ่วม ค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ระดับสีส้ม กว่า 50 พื้นที่

23-26 พ.ย.นี้ อากาศระบายไม่ดี เช้านี้กรุงเทพฯ อ่วม ค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ระดับสีส้ม กว่า 50 พื้นที่

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ในวันนี้ (23 พ.ย. 66) เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 29.3-61.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ขณะที่ ค่าเฉลี่ยอยู่ 42.6 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 54 พื้นที่

จากนั้น ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในช่วง 29.3-60.4 มคก./ลบ.ม. โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 50 พื้นที่ ดังนี้

1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 60.4 มคก./ลบ.ม.

2. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 58.7 มคก./ลบ.ม.

3. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม.

4. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม.

5. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 52.2 มคก./ลบ.ม.

6. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 51.9 มคก./ลบ.ม.

7. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 51.3 มคก./ลบ.ม.

8. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 50.7 มคก./ลบ.ม.

9. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 50.6 มคก./ลบ.ม.

10. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 50.6 มคก./ลบ.ม.

11. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 50.1 มคก./ลบ.ม.

12. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 49.1 มคก./ลบ.ม.

13. เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.

14. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 48.5 มคก./ลบ.ม.

15. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม.

16. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 47.1 มคก./ลบ.ม.

17.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 47.1 มคก./ลบ.ม.

18. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.

19. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 46.8 มคก./ลบ.ม.

20. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.

21. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.

22. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.

23. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.

24. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 45.3 มคก./ลบ.ม.

25. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.

26. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 44.7 มคก./ลบ.ม.

27. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 44.5 มคก./ลบ.ม.

28. เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 44.5 มคก./ลบ.ม.

29. เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม.

30. อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.

31. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.

32. เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 43.0 มคก./ลบ.ม.

33. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.

34. เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.

35. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.

36. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

37. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

38. เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม.

39. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.

40. เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.

41. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.

42. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.

43. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.

44. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

45. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.

46. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.

47. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.

48. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

49. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.

50. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.

สำหรับ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. 66 การระบายอากาศไม่ดี จึงคาดว่าจะทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองทรงตัว

สำหรับช่วงวันที่ 27-28 พ.ย. 66 การระบายอากาศค่อนข้างดี อาจทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง และคาดการณ์วันนี้มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงานนาซา (NASA) ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ

[สถาบันโรคทรวงอก เตือน PM 2.5 เป็นภัยร้ายต่อสุขภาพ]

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มีค่าเกินมาตรฐาน เป็นมลพิษทางอากาศที่อันตรายต่อสุขภาพ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายผ่านระบบทางเดินหายใจ หากได้รับอย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณที่มาก จะส่งผลกระทบสะสมต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างร้ายแรง

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา PM 2.5 ในปัจจุบัน คือ มีแหล่งสร้างมลพิษทางอากาศที่ไม่สามารถควบคุมให้ลดลงได้ เช่น การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องจักร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ทั้งรถยนต์ใหม่เก่า การเผาป่า การเผาเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งการก่อสร้างที่มีอยู่แทบทุกพื้นที่ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เป็นปัญหาทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง

นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า PM 2.5 ทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ด้วยฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดเล็กมาก ทำให้ฝุ่นสามารถเข้าสู่ร่างกายจากหลอดลมไปหลอดเลือด และกระจายไปส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เมื่อได้รับเป็นระยะเวลานานจนเกิดการสะสมทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายได้หลายระบบ

สำหรับระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพองเกิดอาการกำเริบของโรค เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหอบหืดในคนปกติ รวมทั้งหอบหืดในเด็ก และในระยะยาวจะทำให้สมรรถภาพปอดลดลง จนเกิดเป็นโรคถุงลมโป่งพองในผู้ไม่สูบบุหรี่

นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งปอดอีกด้วย ระบบหัวใจและหลอดเลือด ฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆได้ทั่วร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด เพิ่มอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคหัวใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ในหญิงตั้งครรภ์หากสูดดมฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์อีกด้วย

สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 คือ มักมีอาการไอเรื้อรัง ระคายเคืองตา คัดจมูก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ผิวหนังเป็นตุ่มหรือผื่นนูนแดง ดังนั้นเราควรป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศ หากพบว่า ตนเองมีอาการผิดปกติของร่างกายให้รีบมาพบแพทย์ทันที

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง