รู้จักโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย ที่แพทย์คาดการณ์ว่าจะระบาดแทนที่สายพันธุ์อังกฤษในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย B.1.617.2 หรือ สายพันธุ์เดลตา พบระบาดครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย
แพร่กระจายเร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ หรือ สายพันธุ์อัลฟาถึง 60 เท่า โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่าสายพันธุ์เดลตาคือไวรัสกลายพันธุ์ที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกในอีกไม่ช้า ล่าสุดพบระบาดใน 80 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทย
สายพันธุ์เดลตาระบาดครั้งแรกที่แคมป์คนงานหลักสี่ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ชี้ว่า สัดส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยพบสายพันธุ์เดลตาถึง 10.47 % และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วใน 25 จังหวัด รวม 661ราย กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ กว่า 400 ราย ขณะที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญ เฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พยากรณ์โรคอีก 4 – 5 เดือนจากนี้สายพันธุ์เดลตาจะระบาดแทนที่สายพันธุ์อัลฟ่า
สำหรับประสิทธิภาพวัคซีนกับสายพันธุ์เดลตา มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขอังกฤษระบุว่าฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และ ไฟเซอร์ ครบ 2 เข็ม มีประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยแบบมีอาการได้ถึง 60% และ 88% ตามลำดับ ซึ่งลดลงจากสายพันธุ์ดั้งเดิม ส่วนการฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลตาอยู่ที่ 33% เท่านั้น
นอกจากนี้ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษา ศบค. ระบุว่า ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้น ชี้ตรงกันว่าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตา คือวัคซีน mRNA คือไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ที่มีประสิทธิภาพเท่าๆ กัน แม้จะลดประสิทธิภาพลงไปบ้าง แต่ก็ยังป้องกันได้ดีหลังจากฉีด 2 เข็ม
ส่วนวัคซีนซิโนแวค ยังไม่มีรายงานการวิจัยในการป้องกันการติดเชื้อ แต่มีข้อมูลบุคลาการทางการแพทย์ในอินโดนีเซียติดเชื้อมากกว่า 350 คนหลังฉีดแล้ว 2 เข็ม ทำให้มีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพป้องกัน
ที่มา : องค์การอนามัยโลก(WHO), กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, ศบค., นพ.ยง ภู่วรวรรณ, สำนักข่าวรอยเตอร์
