เมื่อพูดถึง “เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชีย” สองพื้นที่ที่ถูกยกเป็นตัวอย่างอันดับแรกๆ มักไม่พ้น สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ที่เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน กฎหมายรองรับชัดเจน และผู้คนคุ้นเคยกับดิจิทัล
แต่ภาพที่ใหญ่กว่าคือหากมองทั้งภูมิภาคอาเซียนตอนนี้ถูกคาดหมายว่าจะเป็น “เขตเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”
แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากประชากรกว่า 600 ล้านคนที่ใช้งานดิจิทัลมากขึ้นทุกปี รวมทั้งนโยบายรัฐที่ผลักดันเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่กำลังลงทุนครั้งใหญ่ ทั้งหมดนี้ทำให้ภูมิภาคอาเซียนกลายเป็นจุดโฟกัสใหม่ของเทคโนโลยีโลกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

TODAY Bizview ได้พูดคุยกับ ‘Simon Chan’ ประธานกรรมการ Cyberport Hong Kong (ศูนย์นวัตกรรมใหญ่ของฮ่องกง) ที่จะมาเล่าให้ฟังถึงมุมมองเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้ ให้ครบจบผ่านบทความนี้
[ อาเซียนจากผู้ตามสู่โอกาสใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล ]
‘Simon Chan’ ให้ความเห็นว่าเขตเศรษฐกิจดิจิทัลที่โตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นตลาดที่ Cyberport ผู้เล่นสำคัญด้านนวัตกรรมของฮ่องกง มองว่าน่าจับตามากที่สุดในช่วง 1–2 ปีข้างหน้าคือ “อาเซียน”
เพราะแม้หลายประเทศในอาเซียนจะเริ่มพัฒนา ecosystem ดิจิทัลช้ากว่าฮ่องกงหรือสิงคโปร์ แต่กลายเป็นว่าการ “มาทีหลัง” กลับกลายเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ เพราะสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดตั้งแต่ต้น ไม่ต้องเสียเวลาอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัยเหมือนประเทศที่เริ่มเร็วกว่าด้วยซ้ำ
โดย 3 ประเทศ ‘Simon Chan’ มองว่าโดดเด่นที่สุดตอนนี้คือ
-
-
-
-
- ไทย เพราะตลาดใหญ่ เข้าใจเทคโนโลยีเร็ว ผู้บริโภคพร้อมทดลองสิ่งใหม่
- มาเลเซีย เพราะ Ecosystem เริ่มจับรูปทรง มีนโยบายรัฐหนุนหลัง
- อินโดนีเซีย เพราะตลาดประชากรจำนวนมาก พร้อมเปิดรับโซลูชันดิจิทัลทุกประเภท
-
-
-
ด้าน Cyberport ที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับหลายประเทศในอาเซียน ผ่านทั้ง MOU และโครงการร่วมด้านฟินเทคและ Web3 ซึ่งอาจอธิบายได้ว่า ทำไมบริษัทจากฮ่องกงหลายแห่งถึงเริ่มย้ายหรือเปิดสำนักงานใหม่ในไทยและมาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ
[ 4 ปัจจัยที่อาเซียนต้องเร่งเพื่อสร้าง Ecosystem ดิจิทัลที่แข็งแรง ]
อย่างไรก็ตาม เขาได้แนะนำปัจจัยที่อาเซียนต้องเร่งสร้าง Ecosystem ดิจิทัลที่แข็งแรง หลักๆ 4 ปัจจัย
-
-
-
-
- โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีต้องพร้อมตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์, AI infrastructure, ไปจนถึงเครือข่ายที่รองรับบริการดิจิทัลระดับมหภาค เพราะถ้าพื้นฐานแน่น สตาร์ทอัพและธุรกิจเทคก็ต่อยอดได้ทันที
-
-
-
-
-
-
-
- นโยบายรัฐต้องชัดและต่อเนื่อง Startup ecosystem จะเดินไปได้เร็ว ต้องมีกรอบกฎหมายชัดเจน เช่น digital asset, data privacy, cybersecurity รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดทุนต่างชาติ
-
-
-
-
-
-
-
- พลังของผู้บริโภคที่กำลังโตแบบก้าวกระโดด ประชากรในอาเซียนนิยามพฤติกรรมพร้อมลอง พร้อมจ่าย และพร้อมเติบโต ซึ่งต่างจากตลาดพัฒนาแล้วที่อิ่มตัวไปมาก
-
-
-
-
-
-
-
- ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์แค่เลือกบทเรียนที่ใช่ การเรียนรู้จากประเทศที่ทำสำเร็จแล้ว เช่น ฮ่องกงหรือสิงคโปร์ แล้วนำมาปรับให้เข้ากับบริบทของตนเอง เป็นทางลัดที่ทำให้อาเซียนสามารถข้ามขั้นได้หลายปี
-
-
-
‘Simon Chan’ ยังบอกอีกว่าว่า โอกาสเติบโตใหญ่สุดของเทคโนโลยีในเอเชีย ไม่ได้อยู่ที่ประเทศพัฒนาแล้วอีกต่อไป แต่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อาเซียน โดยเฉพาะ ไทยที่ตลาดคอนซูเมอร์แข็งแรง พร้อมบริการดิจิทัลใหม่ๆ มาเลเซียกำลังใช้เทคโนโลยียกเครื่องเศรษฐกิจ ฟิลิปปินส์ ตลาดแรงงานดิจิทัลใหญ่ และพร้อมขยายบริการออนไลน์อย่างรวดเร็ว
เพราะแม้บริษัทเทคจากฮ่องกงหลายแห่งเริ่มกระจายตัวสู่ภูมิภาคนี้แล้ว ไม่ใช่ด้วยเหตุผลด้านต้นทุน แต่เพราะ “ดีมานด์โตจริง และโตเร็ว”
สรุปง่ายๆ ว่าตอนนี้อาเซียนกำลังขยับขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลโลก และหนึ่งในประเทศที่ถูกจับตามองมากที่สุดก็คือ ไทย เพราะเมื่อ Cyberport ศูนย์นวัตกรรมใหญ่ของฮ่องกง ออกมาบอกชัดว่า อาเซียนคือโอกาสที่เติบโตเร็วที่สุดในอีก 1–2 ปี นั่นหมายความว่าภูมิภาคนี้ถูกมองเป็น “ตลาดเทคโนโลยีระดับโลก” ไปแล้ว
แรงหนุนก็มาจากหลายด้าน ทั้งจำนวนประชากรที่ใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้น นโยบายรัฐที่ขยับเร็ว รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทั้งหมดนี้ทำให้ไทยขึ้นมาอยู่ในแผนที่ดิจิทัลโลกอย่างเต็มตัว










