
วันที่ 11 ม.ค. เวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 วาระ 2 เป็นวันที่ 4
.
การพิจารณา มาตรา 43 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนเชื่อว่าช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลยังมี อำนาจตามมาตรา 44 ถ้าทำจริงยาเสพติดคงหมดประเทศไทยแล้ว
.
ในยุคหนึ่งยาบ้าเม็ดละ 400 บาท ตนไม่อยากเอ่ยว่ายุคใด เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง แต่ยุคนี้ 5 เม็ดร้อย จะเท่าต้นทุนเม็ดละ 15 บาทแล้ว ผลิตง่ายซื้อขายสะดวก
.
ฝ่ายความมั่นคงเข็มตกเล่มเดียวยังรู้เลยว่าตกที่ไหน ถ้าตั้งใจเอาจริงปราบยา พวกค้าจะอยู่ได้อย่างไร แต่นี่จับได้แต่ลูกจ้างขนยา ลูกค้ารายเล็กน้อย ทุกจังหวัดยิ่งเพิ่มขึ้นๆ ขอให้ไปถามตำรวจรายงานผลการจับกุมทุกปี ทำไมไม่ลดลง เขาบอกว่าเจ้านายให้รายงานว่าทำงานเข้าเป้า จะได้งบประมาณเพิ่ม

เมื่อมีวาระแห่งชาติทำแผนยุทธศาสตร์บูรณาการปราบปรามยาเสพติด ตนดีใจ และขอเสนอเรื่องที่อาจจะไม่ถูกหลักมนุษยชน คือ ตนอยากเห็นการปราบเหมือนเดิม คนป่วยเอาไปรักษา คนค้าเอาไปค้างที่วัดสัก 2 คืน วันรุ่งขึ้นเอาไปเผาได้ ถ้ารัฐบาลเอาแผนไปทำได้จริง จะเป็นของขวัญวันเด็กที่ดีที่สุด
.
เมื่องบปราบยากระจายไปหมดหลายหน่วยงาน จึงขอฝากนายกฯลุงตู่ ลุงป้อม ลองทำให้ดูซิ รมว. มหาดไทย ด้วยปราบให้เห็นจับพ่อค้ารายใหญ่ๆ
.
นายครูมานิตย์ ยังกล่าวถึงเรื่องการทำลายยาเสพติดที่จับได้ว่า ทำกันตรงไหน ตนกลัวจะเป็นการเวียนเทียน จับได้ใส่โกดังเอามาเวียนเทียน นานๆ ทีถึงจะมีข่าวการทำลาย พร้อมกล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า “คนเสพเอาไปรักษา คนค้าเอาไปไว้วัดสัก 2 คืนรับรองเบา”

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ขอใช้สิทธิ์ชี้แจงว่า ยาเสพติดยุคนี้ไม่เหมือนเดิมที่มีขั้นตอนการผลิตนาน แต่ทุกวันนี้โรงานหลังคามุงจากก็ผลิตยาบ้าได้วันละ 3 ล้านเม็ด ขณะที่การผลิตยาเสพติดที่สามเหลี่ยมทองคำ เรารู้ข้อมูลว่ามีการผลิตมากขึ้นคิดเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับ 60% ของงบประมาณประเทศไทย และยาเสพติดบางส่วนผ่านประเทศไทย จึงต้องใช้งบประมาณในการปราบ ซึ่งตนรับรองในฐานะ รมว.ยุติธรรม จะดูแลในส่วนงบของกระทรวง
.
ส่วนปริมาณจับที่เทียมๆ ยืนยันว่าไม่มีเพราะปัจจุบันยาถูกมาก อย่างไรก็ตามเรื่องรางวัลนำจับจะปรับปรุงให้เหลือรางวัลนำจับครึ่งเดียวและจะไปเพิ่มในส่วนที่ช่วยให้สาวถึงตัวการและยึดทรัพย์ได้