ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ยืนยัน รัฐบาลมีเงินรับมือเยียวยา และพยุงเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 2.6 แสนล้านบาท คาด กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม.ออกมาตรการเยียวยาประชาชน เร็วๆ นี้
วันที่ 19 เม.ย.2564 นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 ยังมีงบประมาณเพียงพอสำหรับใช้ในการเยียวยา และพยุงเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 เฉลี่ยประมาณ 2.6 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท และจากงบประมาณรายจ่ายงบกลางปี 2564 รวมทั้ง งบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็นที่ยังใช้ได้ อีกประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถอนุมัติเพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้ได้เมื่อจำเป็น คาดว่า กระทรวงการคลัง จะมีมาตรการเยียวยาผลกระทบ และเสนอ ครม. เร็วๆ นี้
พร้อมกันนี้ ในปีงบประมาณ 2564 จำเป็นต้องโอนงบประมาณจากส่วนราชการมาใช้ในการเยียวยา และบรรเทาผลกระทบโควิด-19 เพิ่ม เหมือนในปี 2563 ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน และในการออก พ.ร.บ.โอนงบนั้น จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน หากจะทำตอนนี้คงไม่ทัน
และขณะนี้ประเมินว่าวงเงินที่เหลืออยู่ยังมีเพียงพอสำหรับรับมือโควิด เพราะในการออกมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิดแต่ละครั้งจะใช้เงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท
“ในปีงบประมาณ 2564 ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกลี่ยงบจากส่วนต่างๆ เพื่อมาใช้งบรับมือโควิดเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มีเงิน 2.6 แสนล้านบาท พอดูแล เพราะแต่ละครั้งที่ใช้มาตรการรับมือโควิดเฉลี่ยครั้งประมาณ 1 แสนล้านบาท เช่น ไปเติมมาตรการเราชนะ ก็ยังพอมีเม็ดเงินอยู่ ยังไม่กดปุ่มแดง”
ส่วน งบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีน ได้อนุมัติไปแล้ว 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในส่วนของงบประมาณปี 2564 โดยไม่ได้ตั้งงบสำหรับจัดซื้อวัคซีนไว้ในงบประมาณปี 2565 หากจำเป็นต้องใช้เงิน ก็สามารถใช้งบของกรมควบคุมโรค ซึ่งจะมีงบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนทั่วไปอยู่แล้ว โดยสามารถโยกมาใช้สำหรับวัคซีนโควิดได้











