“ดัสกร” ร้องกองปราบ เล่นฟุตบอลฟรี 5 เดือน ทีมไม่จ่ายค่าจ้าง

“ดัสกร” ร้องกองปราบ เล่นฟุตบอลฟรี 5 เดือน ทีมไม่จ่ายค่าจ้าง

กีฬา

ดัสกร ทองเหลา อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยพาเพื่อนร่วมทีมสีหมอก ร้องกองปราบหลังถูกเบี้ยวค่าเหนื่อยร่วม 10 ล้านบาท  เผยที่ผ่านมาต้องออกเงินค่าเดินทาง ค่าที่พักเพื่อไปแข่งขันเอง 

วันที่ 14 พ.ค. เวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายดัสกร ทองเหลา อายุ 35 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วยนักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมงานสตาฟโค้ชสโมสรฟุตบอลสีหมอก เอฟซี กว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ธีรพจน์ คงหนู สว.สอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังสโมสรฟุตบอลดังกล่าวซึ่งมีนายธนเดช ยงกิจจาธร เป็นประธานสโมสร ค้างค่าจ้างเงินเดือนค่านักฟุตบอลและทีมงานในสโมสรมานานร่วม 5 เดือน รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการว่าจ้างมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นายดัสกร กล่าวว่า ช่วงปลายเดือน พ.ย. 2561 ตนได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสโมสรซึ่งเป็นทีมในไทยลีก 3 ในระยะสัญญา 1 ปี แต่นับจากที่ตนได้เป็นนักฟุตบอลของสโมสรแล้วกลับยังไม่เคยได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้เป็นระยะเวลานานร่วม 5 เดือน และไม่ใช่เพียงแค่ตนเท่านั้น เหล่าบรรดานักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมงานสตาฟโค้ช คนอื่นๆ อีกกว่า 40 คน ของทีมก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างด้วยเช่นกัน เมื่อทวงถามก็บอกว่าจะพยายามหาเงินมาจ่ายให้ ขณะนี้กำลังเงินทุนจากต่างประเทศก่อนจะเงียบหายไป ที่ผ่านมาตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆ ต้องยอมควักกระเป๋าตนเองเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าอาหาร ที่พักโรงแรม ค่าเดินทาง ในการเดินทางไปแข่งขัน เพื่อให้ตนเองสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ต่อ

นายดัสกร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการที่ตนเลือกเซ็นสัญญาร่วมกับดังกล่าวนั้น เนื่องจากตนเห็นว่ามีทีมงานสตาฟโค้ชที่รู้จักสนิทสนมและเป็นอดีตทีมชาติหลายคน อีกทั้งท่านประธานสโมสรเองก็มีประวัติดี เป็นนักธุรกิจใหญ่ และมีความน่าเชื่อถืออยู่ใน จ.สุพรรณบุรี จึงตัดสินใจเข้าร่วมทีมด้วยและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ที่ผ่านมาตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆ ได้เคยไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก่อนจะมีคำสั่งให้ยุบทีมจากระบบการแข่งขันทุกรายการ พร้อมทั้งมีการเจรจากับประธานสโมสร ซึ่งท่านประธานเองก็รับปากว่าจะดำเนินการจ่ายเงินค่าจ้างที่ติดค้างให้กับทุกคน แต่เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายเดือนกลับยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามที่กล่าวอ้าง ด้วยเหตุนี้ตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆ จึงได้รวมตัวกันมาเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางตำรวจกองปราบในวันนี้ โดยหลังจากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

“สโมสรไม่ได้มีเพียงแค่นักฟุตบอลคนไทยเท่านั้นยังมีนักฟุตบอลชาวต่างชาติ อีก 2 คน มีชาวญี่ปุ่น 1 คนและ ชาวนามิเบีย อีก 1 คน ซึ่งทั้ง 2 คนเบื้องต้นทราบว่าได้มีการยื่นเรื่องร้องต่อทางฟีฟ่าไปบ้างแล้ว ซึ่งหากยังไม่มีการแก้ไขเกรงว่าวงการฟุตบอลไทยจะได้รับความเสื่อมเสีย และในอนาคตนักฟุตบอลชาวต่างชาติอาจจะไม่กล้ามาค้าแข้งในเมืองไทย”

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง